ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ระหว่างวันที่ 27 – 28 ก.พ. ซึ่งคาดว่าการเจรจาในครั้งนี้จะเน้นเกี่ยวกับการโน้มน้าวเกาหลีเหนือ ให้ล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์
ความสัมพันธ์ยุคใหม่ ระหว่างสหรัฐกับคอมมิวนิสต์เวียดนาม ถูกมองว่าเป็นรูปแบบตัวอย่าง สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ
กาประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับคิมครั้งแรก ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีเยี่ยม แต่มีพัฒนาการน้อยมาก ทั้งสองฝ่ายกล่าวว่า ยึดมั่นต่อเป้าหมายปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่กล่าวถึงรายละเอียดวิธีดำเนินการ หรือการตรวจพิสูจน์
ทรัมป์ประกาศในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ แถลงนโยบายและผลงานประจำปี ต่อที่ประชุมร่วมสภาคองเกรสสหรัฐ หรือ สเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน เมื่อวันที่อังคารที่ 5 ก.พ. ว่า เขาจะพบปะกับคิมครั้งใหม่ที่เวียดนาม แต่ไม่ระบุสถานที่แน่ชัด
เมื่อเย็นวันศุกร์ (8 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ทรัมป์ทวีตข้อความว่า เขาจะพบปะกับคิมที่กรุงฮานอย “เพื่อผลักดันอุดมการณ์สันติภาพ”
ฮานอยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ ในสงครามนองเลือดกับเวียดนามใต้ ระหว่างปี พ.ศ. 2508 – 2516 ที่ชาวอเมริกันเรียกว่า “สงครามเวียดนาม” แต่ชาวเวียดนามเรียกว่า “สงครามอเมริกา” และนับตั้งแต่สงคราม ซึ่งทำให้พลเรือนและทหารเสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่ายหลายล้านคน เวียดนามเหนือ-ใต้ ที่รวมเป็นประเทศเดียว ได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐ แม้ว่าจะยังคงความเป็นประเทศคอมมิวนิสต์
นายคิม อุย-เคียม โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เหตุผลที่เวียดนามได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอด ทรัมป์-คิม ครั้งที่ 2 เนื่องจากเป็นดินแดนที่อเมริกาเคยจ่อปลายกระบอกปืนและปลายดาบเข้าหากัน นอกจากนั้นยังถูกมองว่าเป็นตัวอย่างของการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมือง ที่เกาหลีเหนือสมควรดำเนินรอยตาม
ทางด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวสหรัฐรายหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนจัดการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เผยต่อสำนักข่าวซีบีเอสของสหรัฐ ว่า เหตุผลส่วนหนึ่งที่เวียดนามถูกเลือกเพราะ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสหรัฐและเกาหลีเหนือ