“อภิสิทธิ์”ขอ 24 มี.ค.ประชาชนกา ปชป. ลั่นสิ่งแรกที่จะทำคือแก้จน ไม่ใช่ปล่อยให้จนมา 4 ปีแล้วปีสุดท้ายแจกเงิน
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)นำผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ 1.นายอาศุชิน เป้าอารีย์ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต1 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 10 2.นายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต2 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 2 3.นายปารเมศ โพธารากุล ผู้สมัคร ส.ส. กาญจนบุรี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์5 4.พล.ท.ทำนุ โพธิ์งาม ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 3 5. นพ. สุรพงษ์ ตันธนศรีกุล ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 10 เข้าสักการะศาลหลักเมืองกาญจนบุรี และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว =รัชกาลที่ 3 เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า มีความมั่นใจในผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 5 คน ของพรรค ว่าจะสามารถนำนโยบายของพรรคมาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี โดยพรรคเน้นการทำงานเป็นทีม ซึ่งปัญหาแรกที่พรรคฯจะเร่งแก้ไข คือปัญหาปากท้องของประชาชน
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ จ.กาญจนบุรี พร้อมกล่าวปราศรัยกับสมาชิกพรรคฯและพี่น้องประชาชน กว่า 1,000 คน โดยชูนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติเพราะพรรคเชื่อหลังการเลือกตั้งประชาชนมีความหวังว่าเศรษฐกิจปากท้องจะดีขึ้น วันนี้เศรษฐกิจแย่เพราะพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ คือเกษตรกรไม่มีกำลังซื้อ จากการเดินตลาดเช้าวันนีได้รับคำบอกกล่าวจากแม่ค้าว่าสินค้าที่พอจะขายได้ก็มีเพียงชุดนักเรียน และชุดชั้นใน พรรคประชาธิปัตย์จะบอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนต้องเลือกให้ตัวเอง สิ่งแรกที่ประชาธิปัตย์จะต้องทำคือแก้จน โดยเอาคนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นที่ตั้ง และทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศมีรายได้ที่ดีขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้จนมา 4 ปีแล้วปีสุดท้ายมาแจกเงิน วิธีนี้แก้ปัญหาไม่ได้แน่นอน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่จะต่อยอดเพิ่มจำนวนเงิน และให้ใช้เงินสดในร้านค้าในชุมชน ไม่จำเป็นต้องไปซื้อเฉพาะร้านที่รัฐบาลจัดให้ การที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้ดีนั้นจะต้องมีการแก้อย่างเป็นระบบ พรรคใช้เวลา 5 ปีที่ผ่านมาทำงาน โดยไม่มีวันหยุด ติดตามปัญหาของคนทุกกลุ่มในสังคม โดยเฉพาะปัญหาเกษตรกร ทั้งมันสำปะหลัง ข้าว ข้าวโพด ซึ่งได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาล อาทิ เช่น นำเข้าข้าวสาลี การจัดระเบียบที่ดิน เมื่อครั้งพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เราใช้นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ไม่ว่าเกษตรกรจะปลูกข้าว ปลูกมัน เราได้คำนวณต้นทุนออกมา หากราคาที่ขายได้ต่ำกว่าต้นทุน หรือ ต่ำกว่าต้นทุนบวกกำไรที่ควรจะมี รัฐบาลจะจ่ายส่วนต่างให้เกษตรกรทันที ยุคนั้นเกษตรกรไทยไม่มีขาดทุนแน่นอน พรรคประชาธิปัตย์จะนำนโยบายเหล่านั้นทั้งหมดกลับมาต่อยอดให้เกษตรกรมั่นใจว่าทำการเกษตรต้องมีรายได้มั่นคงแน่นอน
“การยึดอำนาจเกิดขึ้นจากการมีรัฐบาลที่โกงบ้านโกงเมืองจนประชาชนออกมาต่อต้านนำมาซึ่งการรัฐประหาร วันนี้ประชาธิปัตย์มีความพร้อม ที่จะพาพี่น้องออกจากสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่พร้อมแล้วที่จะพาการเมืองไปสู่เส้นทางประชาธิปไตยที่มีความร่วมมือ วันนี้ประชาธิปัตย์รอการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน บัตรเลือกตั้งครั้งนี้ออกแบบมาใหม่ 24 มี.ค.นี้ ขอให้ประชาชนดูให้ดี และกาให้ถูกต้อง กาคำว่า ประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องสุจริต