“อนาคตใหม่” เปิดตัว 10 ปาร์ตี้ลิสต์

2019-02-01 12:55:23

“อนาคตใหม่” เปิดตัว 10 ปาร์ตี้ลิสต์

Advertisement

“อนาคตใหม่”เปิดตัว 10 ว่าผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ  วางตัวเป็นรัฐมนตรีตามความเชี่ยวชาญของแต่ละคน


เมื่อวันที่ 1 ก.พ. พรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 10 ลำดับแรกของพรรค ซึ่งเป็น "ทีมธนาธร" และวางตัวไว้ว่าจะเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงที่เป็นความเชี่ยวชาญของแต่ละคน ได้แก่ 1.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 2.นายปิยบุตร แสงกนกกุล 3.น.ส.วรรณวิภา ไม้สน 4.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 5.น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 6.พล.ท.พงศกร รอดชมภู 7.น.ส.พรรณิการ์ วานิช 8.นายสุรเชษฐ ปวีณวงศ์วุฒิ 9.ธัญญวาริน สุขะพิสิษฐ์ และ10.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์


นายธนาธร กล่าวว่า การเปิดตัวครั้งนี้ คือ มิติใหม่ทางการเมือง เป็นสิ่งที่ตนเองภูมิใจมาก เพราะการเมืองแบบเก่า พรรคการเมืองอื่นๆ จะไม่เปิดตัวคนที่วางตัวไว้ว่าจะเป็นรัฐมนตรีเช่นนี้ ที่เขาทำคืออาจจะมีกลุ่มก๊วนไปหา ส.ส.ในสังกัดให้ได้สัก 10-20 คน จากนั้นนำไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี พอบรรลุข้อตกลง ได้เก้าอี้มาก็จะนำไปมอบให้กับนายทุนพรรค หรือหัวหน้ามุ้ง หัวหน้าก๊วนนั้นๆ แต่พรรคอนาคตใหม่ยืนยันไม่ทำแบบนั้น รัฐมนตรีของเราคือคนธรรมดา พิจารณาตามความเหมาะสม พิจารณาตามความรู้ความสามารถ นี่คือคนที่ทำงานจริง คือคนที่ประสบความสำเร็จในงานสายงานของตนเอง และที่สำคัญคือ คนที่รู้สึกว่าประเทศไทยจะอยู่แบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ทั้งหมดพร้อมจะมาอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น


นายธนาธร กล่าวต่อว่า นี่เป็นเพียงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 10 ลำดับแรก วางตัวไว้เป็นรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตามเรามั่นใจว่าจะได้ ส.ส.เยอะกว่านี้แน่นอน ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ตั้งใจจะส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100-150 คน วันนี้หลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคจะมีข้อสรุป นอกจากนี้ ในวันที่ 4 ก.พ.ผู้สมัครแบบแบ่งเขตแต่ละจังหวัดจะเดินทางไปสมัครตามที่ กกต.จัดสถานที่ วันที่ 5 ก.พ. จะมีการแถลงข่าวภาพรวม ส.ส.ทั้ง 350 เขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดอย่างแน่นอน และเรายืนยันว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง ไม่ใช่พรรคของคนภาคเหนือ ไม่ใช่พรรคของคนภาคใต้ แต่เราเป็นพรรคของคนทั้งประเทศ จึงอยากย้ำว่า เราไม่ได้มาเล่นๆ แต่เราเอาจริง


นายธนาธร กล่าวถึงกรณีการท้าดีเบตกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ตนเองอยู่ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ศักดิ์และศรีของเราเท่ากัน จึงอยากเชิญมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อให้ประชาชนเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกแบบไหน




ด้าน นายปิยบุตร กล่าวว่า การคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่ เราเปิดกว้างสำหรับคนทุกกลุ่ม และทั้ง 10 รายชื่อนี้ เป็นตัวแทนกลุ่มคนที่จะเข้าไปผลักดันนโยบายในด้านนั้นๆ เช่น คุณวรรณวิภาเรื่องแรงงาน คุณพิธาเรื่องเกษตรก้าวหน้า คุณกุลธิดาเรื่องการศึกษา พล.ท.พงศกร เรื่องปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัยเป็นประชาธิปไตย คุณพรรณิการ์เรื่องการต่างประเทศและสื่อสารมวลชน คุณสุรเชษฐ์เรื่องโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม คุณธัญญ์วารินเรื่องวัฒนธรรมและความหลากหลายทางเพศ คุณพิจารณ์เรื่องเศรษฐกิจสมัยใหม่ นี่คือทีมธนาธร ที่พร้อมจะดำเนินนโยบายตามที่พรรคได้เคยเสนอไป เป็นคนหน้าใหม่ทางการเมือง แต่ไม่ได้ใหม่ประสบการ เพราะนี่คือคนที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับในแวดวงของตนเอง


"เราอยากรื้อฟื้นคำว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะที่ผ่ามา ประชาชนเป็นแค่คนที่เดินเข้าไปกากบาทในคูหาเลือกตั้ง ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล วางตัวรัฐมนตรีกลายเป็นเรื่องของพรรคการเมืองกลุ่มก๊วนต่างๆ แต่เราเปิดมิติใหม่ ยืนยันว่านี่คือตัวแทนของคนทุกสาขาอาชีพ ที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนของประชาชน เข้าไปต่อสู้เพื่อประโยชน์ของกลุ่มคนนั้นๆ จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแรงงาน เพศหลากหลาย ซึ่งคนเหล่านี้ไม่มีใครพูดแทนได้ ต้องไปพูดเอง นี่คือคนที่จะไปเป็นปากเสียงแทน และพร้อมบริหารประเทศแทน ตอนนี้แม้ยังไม่ไปถึงจุดนั้น แต่ทั้งหมดจะทำหน้าที่เกาะติด คอยตรวจสอบในเรื่องที่ตนเองเชี่ยวชาญ" นายปิยบุตร กล่าว


นายปิยบุตร กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ เข้าสู่เวทีการเมือง โดยรับทาบทามเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคพลังประชารัฐ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เพิ่งเข้ามาในเวทีการเมือง แต่มานานแล้ว เพียงแต่ไม่ใช่เข้าตามตรอกออกตามประตู หากแต่เป็นการรัฐประหารยึดอำนาจเข้ามา จึงไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาเถียงกันว่า จะเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในฐานะนายกคนในหรือนายกคนนอก พล.อ.ประยุทธ์คือนายกคนนอกนานแล้ว การที่พรรคพลังประชารัฐเทียบเชิญเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ให้ลงเลือกตั้ง นั้นก็เพื่อชุบตัว ซึ่งทุกคนก็มองกลไกนี้ออก เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเพิ่งเกิด ประวัติศาสตร์การเมืองในประเทศไทยเคยเกิดขึ้นแล้วที่ทหารยึดอำนาจ จากนั้นใช้การเลือกตั้งชุบตัว นั่้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ นี่คือเรื่องของการสืบทอดอำนาจ





"วันนี้ ถ้าถามว่าเพื่อความเหมาะสม พล.อ.ประยุทธ์ ควรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือตำแหน่งหัวหน้า คสช.หรือไม่ สำหรับผมแล้ว คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรออกจากการเมืองไปเลยด้วยซ้ำ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าการบริหารประเทศล้มเหลว คือถ้าคุณอยากชุบตัวโดยผ่านการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ทำไม แค่เพียง 6 เดือนหลังยึดอำนาจไม่ทำ ทำไมไม่จัดให้มีการเลือกตั้ง ไม่มีเหตุผลต้องอยู่ยาวถึง 5 ปี สร้างความเสียหาย ดังนั้น จึงไม่ใช่แค่การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือแค่ออกจากหัวหน้า คสช. แต่ควรออกจากการเมืองไปเลย" นายปิยบุตร กล่าว