เปลือยชีวิตน้ำเน่า "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" เคยโดนสวมเขา กลายเป็นมือที่สาม (คลิป)

2019-01-25 14:55:54

เปลือยชีวิตน้ำเน่า "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" เคยโดนสวมเขา กลายเป็นมือที่สาม (คลิป)

Advertisement

กลายเป็นเรื่องที่เกือบจะทำให้ไม่มี "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" ในวันนี้อีกแล้ว  กับประสบการณ์ชีวิตอันล้ำค่าที่สอนชีวิตให้ผู้หญิงคนนี้มีสติ แข็งแรงและลุกขึ้นได้อีกครั้ง กับประสบการณ์ที่โดนหลอกให้กลายเป็นที่สาม เพียงเพราะผู้ชายซึ่งมีภรรยาและลูกแล้ว เขาอ้างว่า  เขาไม่ได้รักภรรยาของเขาเลย  และเรื่องนี้ คือ บทเรียนสำคัญของ "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" ที่ฝากเตือนใจใครหลายๆคน


ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก ในรายการของพิธีกร "วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา" ถึงทุกเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา การเจ็บปวดเรื่องความรักที่เจ็บปวดมาก เคยกลายเป็นมือที่สาม รักผู้ชายที่เขามีครอบครัวแล้ว เมื่อโดนเขาเททิ้ง ก็ทุกข์ระทมจนกินยาฆ่าตัวตาย โดยเจ้าตัวเล่าว่า





วู้ดดี้ :
ความรักที่เจ็บปวดและได้เรียนรู้มากที่สุด แชร์ให้ฟังหน่อยสิครับว่า มันประมาณไหน?



เจนนิเฟอร์ คิ้ม :  ตอนที่ไปชอบคนที่เขามี ...  ไปเป็นกิ๊กกัน กับคนที่เขามีครอบครัวแล้ว มีลูกแล้ว  แล้วเจอเขาในที่ทำงาน แล้วเราก็กินยาฆ่าตัวตาย  ในเหตุการณ์ครั้งนั้น   มันเป็นรูปแบบน้ำเน่า ปัญญาอ่อน โคตรโง่  แต่มันทำให้เราแข็งแรง ในวันนี้  

คือ เราไม่ควรจะไปชอบผู้ชายในที่เที่ยว นั่นคือ ที่ทำงานของเรา เพราะเวลาเขาดื่มเหล้า เขาจะต้องเมา เขาจะต้องสนุกสนาน เฮฮา เขาจะเป็นตัวของเขาเองในอีกแบบหนึ่ง ที่มันไม่ได้ถูกสังคม หน้าที่ ภารกิจต่างๆ กำกับ แม้กระทั่งเขาเป็นลูก เป็นผัวใคร  สิ่งเหล่านั้นก็ไม่กำกับเขา   แล้วคุณไปหาคนแบบนั้น ในที่ทำงาน เจอแบบนี้ แล้วยอมรับเขาคนแบบนี้เข้ามา มันคือความพลั้งเผลอของคนทั้งคู่






วู้ดดี้ : วันนั้นที่คบกันรู้ไหมว่า เขามีอะไรติดมาด้วย?


เจนนิเฟอร์ คิ้ม :   รู้ แต่ผู้ชายเขาจะชอบพูดว่า  ผมอยู่กับภรรยาของผม เพื่อลูกของผม จริงๆแล้วผมไม่ได้รักเขาเลย ใช้ได้ถึงปัจจุบัน  เช่นเดียวกับการจับผู้ชายโดยอ้างการท้อง ก็ใช้ได้ถึงปัจจุบัน จะจับได้สั้นๆ หรือจะจับได้นานๆ ก็อีกเรื่องหนึ่ง  แต่มันเป็นเรื่องที่น้ำเน่าที่สุดไง  แล้วเราก็ อ้าว! ไม่เป็นไร  เราชอบ เราไม่ได้คิดว่าเราจะไปเอาอะไร แต่เชื่อเถอะว่า เมื่อคุณมีอะไรกับเขา คุณจะรู้สึกว่า ฉันเป็นที่หนึ่งขึ้นมาทันที  ฉันไม่แบ่งคนนี้กับใคร  ฉันไม่อยากจะหลบซ่อนอีกต่อไป  กลายเป็นจากความไม่มีเงือนไข ดันกลับกลายมามีเงือนไข  ได้อย่างไร?  เพราะว่าเวลาเรารู้สึกว่า การได้ครอบครองใครแล้ว เราจะมีความรู้สึกอยากควบคุมเกมและสิ่งต่างๆ ไปในทิศทางที่เราอยากให้เป็น







วู้ดดี้ :
เสร็จแล้วมันก็เริ่มเลอะเทอะมากขึ้น

เจนนิเฟอร์ คิ้ม :
  เลอะเทอะเพราะว่า เราควบคุมเขาไม่ได้หรอก เขามาตั้งแต่อย่างนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว คือ ควบคุมไม่ได้  คนที่มาแบบเป็นอิสระ แล้วก็มาหาแค่ความผ่อนคลายในชีวิต ความไม่จริงจังในช่วงเวลานั้น มันก็กลายเป็นแบบนี้  แล้วเวลามันสั้นมาก แค่3เดือน เขาก็ไปติดคนอื่น แต่เราไม่รู้ว่าเขาไปติดคนอื่น  เราคิดแค่ว่าเขากลับบ้านไป  พ่อเคยสอนว่า ถ้าเมื่อไรจุดเริ่มต้นของเรา เราแย่งเขามาหรืออะไร จะมีคนแย่งเรา ต่อไปอีกรอบหนึ่ง  แล้วเมื่อไรที่เขาทำอย่างนั้นกับเราได้  เขาก็จะไปชอบคนอื่นๆได้อีก แล้วก็ทิ้งคนอื่นๆได้อีก มันจะเป็นฤดูกาลที่ 2 ที่ 3 ที่4 แต่ว่าโครงเรื่องเรื่องเดิมเลย  มันก็ไล่ล่าแบบนี้ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนตัวไปเรื่อยๆ






วู้ดดี้ : แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นจบลงยังไง?

เจนนิเฟอร์ คิ้ม :  จบลงที่ไม่ได้จะตั้งใจจะตายจริงๆ  ตั้งใจจะประชดแล้วให้เขากลับมา  แล้วเขาจะรักเรา เห็นรึเปล่าว่า เรื่องมันน้ำเน่า คิดได้น้ำเน่า ใช้หัวแม่เท้าข้างซ้ายคิดได้จริงๆ ผู้หญิงหลายคนก็คิดอย่างนั้นได้จริงๆ 

วู้ดดี้ : นึกถึงวันที่ คิ้ม จะฆ่าตัวตายวันนั้น นึกไม่ออก ว่ามันประมาณไหน ใช้วิธีอะไร?

เจนนิเฟอร์ คิ้ม :  กินยา เหมือนยานอนหลับ กินเยอะๆ 

วู้ดดี้ : แล้วมันมีสติยังไง ในการไปซื้อยานอนหลับมาเตรียมไว้ได้อย่างไร

เจนนิเฟอร์ คิ้ม : เขาเริ่มจะไปจากชีวิตเรา เราก็จะเริ่มเครียด เราก็จะเริ่มกินยา เพราะนอนเองไม่ได้ ต้องกินยานอนหลับ จากเม็ดหนึ่ง เริ่มไม่ไหวแล้ว ก็จะกินมากขึ้น 2เม็ด 3เม็ด บางทีหลับไปเกือบทั้งวัน แต่จำได้ว่า ก่อนที่จะทำสิ่งนั้น ภายในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง  โก้เอาขนมมาให้กิน  (โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน หรือ เศกพล อุ่นสำราญ)  โก้จะเป็นคนที่อยู่ในชีวิตของเราช่วงสำคัญทุกครั้ง  โก้เป็นเหมือนเพื่อนตาย

วู้ดดี้ : เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเพื่อนตาย คือ คนไหน
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : คือคนที่เข้าใจว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เหมือนเขาเข้าใจว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น  เขาเอาขนมมาวางไว้ จำได้เลยว่า เอาขนมเปี๊ยะมากล่องหนึ่ง แล้วพูดว่า (เขาจะเรียกเราว่าพี่ไก่ )

 " พี่ไก่ อะไรก็แล้วแต่ที่เราทำอยู่นะ ถ้ามันเหนื่อย แปลว่า มันไม่ใช่เรา  ถ้ามันต้องวิ่งไล่ แปลว่ามันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ธรรมชาติของเรา กลับมาเป็นตัวเราเอง กลับมาเป็นธรรมชาติของเรา  ไม่ต้องเหนื่อย  ไม่เป็นไร ใช้เวลาได้ เดี๋ยวเราจะกลับมาเป็นตัวเราเองเหมือนเดิม เราต้องเข้มแข็ง"





เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไรรับชมได้จากคลิป