ผอ.รร.สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม แจงปิดเรียน 3 วัน เหตุมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ และสายพันธุ์อื่น ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ เผยช่วงฝุ่นพิษพุ่งสั่งงดกิจกรรมกลางแจ้งเน้นกิจกรรมภายห้องให้นานทำให้เด็กอยู่ในห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท ทำให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา รร.สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ส่งหนังสือถึงผู้ปกครอง ประกาศปิดการเรียนการสอน ตั้งแต่วันที่ 23 -25 มกราคม เป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากพบนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ป่วยด้วยโรคไข้หวัดสายพันธุ์ต่าง
ผศ.ทินกร บัวพูล ผอ.รร.สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม เปิดเผยกับนิว18 ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เนื่องจากขณะนี้พบแนวโน้มการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุเอ และสายพันธ์ุอื่นๆ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยจากการตรวจสอบร่างกายของเด็กนักเรียนเมื่อวันจันทร์ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา พบมีนักเรียนป่วยประมาณ 80 คน แต่วันอังคารหลังจากที่ตรวจสอบแล้วตั้งแต่เวลา 13.00 นาฬิกาเป็นต้นไป พบว่าเด็กป่วยกว่า 130 คน และมีผู้ป่วยรายใหม่สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงคิดว่าน่าจะต้องหยุดยั้งการระบาดให้เร็วที่สุด เนื่องจากช่วงนี้ใกล้เข้าช่วงสอบ หากไม่หยุดยั้ง อาจมีผลกระทบกับผู้ปกครองและเด็กทั้งในเรื่องการสอบและกิจกรรมต่างๆ อีกมาก
ผศ.ทินกร กล่าวด้วยว่า ทันทีที่อากาศเป็นพิษ ได้สั่งการให้เด็กงดกิจกรรมกลางแจ้งให้มากที่สุด และเพิ่มเวลาในการทำกิจกรรมภายห้องให้นานมากขึ้น ทำให้เด็กที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นไข้หวัดปะปนกันอยู่ในห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท ทำให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัด 4 สายพันธุ์ให้กับเด็กนักเรียนไปเรียบร้อยแล้ว จึงค่อนข้างมั่นใจว่า เด็กจะไม่มีโอกาสติดไข้หวัดมาอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายการแพร่ระบาดก็เกิดขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดปัญหาจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เป็นตัวช่วยเสริมการแพร่ระบาดของไข้หวัดอย่างรวดเร็ว
