ตร.บึงกาฬจับไม้กฤษณามูลค่า 3 ล้าน

2019-01-14 16:45:52

ตร.บึงกาฬจับไม้กฤษณามูลค่า 3 ล้าน

Advertisement

ตร.บึงกาฬรวบ 2 ผู้ต้องหาพร้อมของกลางไม้กฤษณา 45.5 กก. มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

เมื่อเวลา 06.00 วันที่ 14 ม.ค. พ.อ.วิชัย มารศรี รอง ผอ.กอ.รมน. พ.ต.อ.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ แถลงข่าวตรวจยึดไม้กฤษณา  45.5 กก. มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เซกา ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการพื้นที่พิเศษรอยต่อ 3 จังหวัด กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และหน่วยป้องกันรักษาป่าบึงกาฬ ได้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติดที่ ถนนสายเซกา – บึงโขงหลง บ้านทรัพย์วังทอง หมู่ที่ 17 ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ ตรวจพบรถเก๋ง ยี่ห้อฟอร์ด สีส้ม บรรทุกไม้กฤษณา จำนวนมากบรรจุในกล่องกระดาษ จึงได้ตรวจยึดไว้


ส่วนคนขับคือ นายชัยพร ภาพันธ์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 4 ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมี นางไม เทพสุวรรณ อายุ 29 ปี ชาวลาวเป็นผู้โดยสารมากับรถ พร้อมกล่องกระดาษ 3 กล่องบรรจุไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม และพบน้ำมันกฤษณาอีก  1 ขวด ตรวจค้นภายในรถพบกระสอบปุ๋ย 2 กระสอบ พันด้วยพลาสติกสีดำ มีไม้กฤษณาซุกซ่อนจำนวนมากจึงได้ตรวจยึดไว้และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางไม้ มาสอบสวนที่ สภ.เซกา รวมของกลางทั้งหมด 45.5 กก. แ

นายชัยพร รับสารภาพว่าได้ร่วมกันขนไม้กฤษณา มาจาก อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ โดยได้รับการจ้างวานจากคนชื่อลำดวน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงให้ไปส่งที่ จ.ปราจีนบุรี


สำหรับมูลค่าของกลาง นายสุรัตน์ วิเศษลา หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 23 ประเมินตามราคาท้องตลาด กก. ละ 8 หมื่นบาท จำนวน 45.5 กก. เท่ากับ 3,640,000 บาท จึงแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดค้า หรือ มีไว้ในครอบครองซึ่งของป่าหวงห้าม เกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา เว้นแต่ได้รับอนุญาตพนักงานเจ้าหน้าที่  มาตรา 39 ผู้ใดนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ต้องมีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มาตรา 70 ฐาน รับไว้ ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือพาช่วยเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำความผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พร้อมได้นำตัวผู้ต้องหา และของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เซกา ดำเนินคดีต่อไป