เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอีกคนของวงการบันเทิง สำหรับ "ดีเจดาด้า วรินดา" ที่เจ้าตัวตัดสินใจจบชีวิตคู่กับสามีนักบิน ปิดฉากรัก 14 ปี อย่างทุกข์ระทม ล่าสุด สาว "ด้า" มาดสุดเปรี้ยวได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ กับคำถามที่ทุกคนค้างคาใจว่าเหตุอันใด เรื่องชีวิตรักของเธอจึงเจอทางตัน ...
ไม่รู้มาก่อนว่าแยกทางกัน ?
ดาด้า : จริงๆ ไม่ได้ปิดนะ แต่ด้าไม่เคยโพสต์ดราม่าหรือเรื่องส่วนตัวลงโซเชียล ทำให้หลายคนไม่รู้ แต่ข่าวออกมาจากพี่มดดำเลย แต่จริงๆ กับเพื่อนด้าไม่ได้ปิด ถ้าใครถามว่าเป็นยังไงบ้างเราก็จะบอก แต่ไม่ได้เปิดถึงขั้นมาโพสต์กลางโซเชียลว่าฉันโสดแล้ว
คนรอบข้างว่ายังไงบ้าง ?
ดาด้า : พอรู้ก็ค่อนข้างตกใจ แต่ถ้าใครที่เป็นเพื่อนสนิทก็จะรู้ว่าเลิกกันสักพักแล้ว แต่ถ้าเพื่อนร่วมงานก็จะไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ เพราะเราไม่ค่อยได้บอกใคร
คบกับแฟนกี่ปี ?
ดาด้า : ถ้าเอาเป็นแฟนด้วยคือ 14 ปี แต่งงาน 9 ปี แรกๆ เขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี มีความผู้ใหญ่ แต่พอเราโตขึ้นทัศนคติมันก็เปลี่ยนไป ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ บางคู่โชคดีที่ทัศนคติไปทางเดียวกัน แต่คู่เราโชคร้ายนิดนึงที่เรามองกันคนละทาง สิ่งที่เรามองอนาคตมันไม่เหมือนกัน เมื่ออยู่กันไม่ได้เราก็มานั่งคุยกัน ทุกวันนี้ก็คุยกันในฐานะเป็นพ่อ เป็นแม่
เขาเป็นนักบินมีสาวๆ ชอบเยอะ นั่นคือสาเหตุของการลังเลไหม ?
ดาด้า : ไม่ เราเลิกกันไม่ได้เป็นเรื่องของมือที่สามเลย แต่ว่าเรื่องผู้หญิงด้ามองว่าผู้ชายส่วนใหญ่เห็นของสวยงามต้องมองอยู่แล้ว เราไม่ได้เก็บมาเป็นเรื่องสำคัญ แต่หลักๆ คือการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์มากกว่า ด้าว่าการใช้ชีวิตคู่มันต้องมีเวลาให้กัน มีกิจกรรมครอบครัวที่เราทำด้วยกัน แต่หลักๆ เนื่องจากเขาเป็นนักบิน เวลาไม่มีให้ครอบครัวเต็มที่
ปัญหามันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน ?
ดาด้า : ตั้งแต่แรกๆ ชีวิตคู่ของด้าจะทะเลาะกันเรื่องเดียวคือเรื่องเวลา เนื่องจากด้าและอดีตสามีมีเวลาไม่ตรงกัน เพราะเราไม่ได้ทำงานออฟฟิศที่เลิกเป็นเวลา เมื่อสองคนมาเจอกันมันค่อนข้างยาก บางทีถึงขนาดต้องนัดเลย
ได้ลองปรับกี่ครั้งแล้ว ?
ดาด้า : คุยกันตลอด เรื่องเวลาให้ครอบครัว เคยคุยแม้กระทั่งว่าด้าจะไม่ทำงานเลย จะเป็นแม่บ้าน ซึ่งเราทำไม่ได้ เพราะอันนี้คือนิสัยเรา อย่างตอนลาคลอดเขาลาได้ 3 เดือน ด้าก็ลาครบนะ แต่อยู่ได้แค่ 3 อาทิตย์ต้องโทรศัพท์กลับมาออฟฟิศอยากทำงาน มันเบื่อ มันเหงา ขอออกจากบ้านไปทำงานสักนิดนึงค่อยกลับบ้านมา ตอนที่อยู่บ้านเรารู้เลยว่าเราไม่สามารถเป็นแม่บ้านหรือดูแลอย่างเดียวได้
แล้วลูก ?
ดาด้า : หลักๆ ลูกอยู่กับด้า แต่สองครอบครัวยังเจอกัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทางน้องดีนก็ยังไปอยู่กับครอบครัวคุณพ่อ แต่อาจไม่ทุกอาทิตย์ อาจจะเป็น 2 อาทิตย์ต่อเดือน
พอความรักเดินทางมาถึงทางตัน มันคุยกันยังไง ?
ดาด้า : เราก็คุยกันว่าถอยกันดีกว่า เรารักกันอยู่ไหม จากนั้นเราก็ถอยมาเลย แต่ก็เราก็คิดว่าเราสามารถเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวได้หรือเปล่า แต่พอเราอยู่ปุ๊บเราก็อยู่ได้แฮปปี้ดี แต่ความห่างของเรา เรายังได้คุยกันในเรื่องลูก เราลองถอยออกมาเป็นเพื่อนกันแล้วร่วมกันดูแลลูกดีกว่า เขาก็โอเคนะ ตอนแรกที่ถอยออกมา 3-4 เดือนแรกไม่มีการคุยกัน พอเวลาผ่านไปสักพักเริ่มโอเคที่อยู่แบบนี้เราไม่ทะเลาะกัน และไม่คาดหวัง ล่าสุดก็ไปทริปเขาใหญ่ด้วยกันมา ก็ดูเป็นบรรยากาศที่ดีขึ้น
นานไหมที่เราแยกออกมากว่าจะเซ็นใบหย่า ?
ดาด้า : ก็เกือบปีนะ ถามว่าเสียดายเวลา 14 ปีไหม ด้าว่าพอถอยออกมาเราแฮปปี้ คือเราไม่ได้ตัดเขาไปจากชีวิต เขายังเป็นเพื่อนเราอยู่
แล้วกับความคิดเห็นที่บอกว่าทำไมเราไม่รักษาครอบครัวเพื่อลูก ?
ดาด้า : ด้าก็เข้าไปอ่านคอมเมนต์นะ บางคอมเมนต์พอรู้ว่าปัญหาหลักๆ คือเรื่องของเวลา เมื่อก่อนตอนอ่านข่าวเราก็ยังสงสัยว่าทำไมคนเราต้องเลิกกันเพราะเรื่องของเวลา พอมาเจอคู่ของเราก็จะเข้าใจ บางคู่เป้าหมายชีวิตไม่เหมือนกัน คือสำหรับเราถ้ามันไม่มีเวลาให้กันไม่มีกิจกรรมครอบครัวที่ทำด้วยกันก็อยู่กันเป็นเพื่อนดีกว่า
แล้วเรื่องค่าเลี้ยงดูลูก ?
ดาด้า : ไม่ได้ตกลงกันเลย ในเรื่องของลูกก็ยังดูแลกันเหมือนเดิม เราไม่ได้กำหนดว่าเธอต้องให้เงินเดือนเราเท่าไหร่ เพราะเราหาด้วยตัวเองได้ ส่วนเรื่องค่าเทอมลูกก็แบ่งกัน
ตอนนี้หัวใจเป็นยังไง ?
ดาด้า : ปกติ ก็มีคนเข้ามา หลายคนมาก ส่วนใหญ่เป็นคนนอกวงการ พอเขาเริ่มรู้ว่าเราโสดก็เริ่มโทรศัพท์มา แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครเป็นแฟน
เข็ดเรื่องความรักไหม ?
ดาด้า : ไม่เข็ดแต่ให้ความสำคัญกับลูกมากกว่า ส่วนตัวไม่มีสเปก แต่แค่คุยกันแล้วคลิก ชอบผู้ชายที่มีเป้าหมายชีวิตมากกว่า รู้สึกแพ้ใจจังเลย
คลิปสัมภาษณ์ ดีเจ.ดาด้า วรินดา
