ออกมาเผยถึงเรื่องราวที่ต้องสูญเสีย "คุณแม่จินดา เต็งมีศรี" ด้วยอาการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ เมื่อวันก่อน หลังจากเข้ารับการรักษาอาการป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ล่าสุด สาว "นัท มีเรีย" และหนุ่ม "อั้ม อธิชาติ" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ได้ความว่า
นัท มีเรีย : "วันนี้เป็นวันรดน้ำและสวดคืนแรกค่ะ ซึ่งจะสวดทั้งหมด 5 คืน จนถึงคืนวันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค. ก็จะฌาปนกิจค่ะ โดยคุณแม่ท่านป่วยมานานแล้วค่ะ 11 ปี เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ก็ใช้สายเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะมานานหลายปี คงจะมีการติดเชื้อจึงทำให้ไข้ขึ้นสูง และท่านก็ไปอย่างสงบค่ะ เมื่อช่วงเช้านัทยังโทร.วิดีโอคอลหาคุณแม่ ก็ยังเห็นมีลืมตาอยู่นิดๆ เหมือนพยายามจะสื่อสารกับเรา พอถึงช่วงประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ คุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว แต่เราก็ยังไปหาเขา ไปดูแลตามปกติ อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนชุดให้"
ไปทันดูใจคุณแม่ไหม ?
นัท มีเรีย : “ก็ได้คุยกันทางโทรศัพท์ตลอดค่ะ”
เราได้พูดอะไรกับคุณแม่บ้างไหม ?
นัท มีเรีย : พูดเยอะค่ะ พูดไปหมดแล้ว พูดทุกวัน พูดเหมือนที่เคยพูดค่ะ มันไม่ได้มีอะไรที่ต้องพูดเป็นพิเศษ เพราะเราพูดและคุยกันทุกวันอยู่แล้ว 11 ปีที่คุณแม่ป่วย มันเหมือนเป็นประโยคที่เราเจอคุณพ่อคุณแม่ทุกวันค่ะ
เรามีเตรียมใจไว้ก่อนบ้างไหม ?
นัท มีเรีย : เตรียมไว้ตลอดค่ะ ก็คิดว่ามันต้องมีวันนี้อยู่แล้วสักวันหนึ่ง แต่ก็พยายามจะมีสติให้มาก โชคดีด้วยที่มีญาติ พี่น้อง เพื่อนๆ พี่ๆ อยู่ในวันนั้น เพราะเราทานข้าวกันที่บ้านพอดี ทุกคนก็เลยร่วมแรงร่วมใจกันแยกย้ายทำหน้าที่ของแต่ละคน โดยที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจริงๆ ค่ะ บอกเลยว่าขอบคุณสถานการณ์ทุกอย่างจริงๆ ค่ะ ขอบคุณพี่อั้มด้วย
อั้ม อธิชาติ : ตั้งแต่รู้จักกับคุณนัทมา ก็จะเห็นว่าคุณนัทมีความเป็นห่วงคุณแม่อยู่ตลอดเวลา คุณแม่ป่วย คุณนัทก็จะหาเวลาไปหาไม่ว่าจะมีงานมากหรือน้อยแค่ไหน ก็จะต้องหาเวลาไปหาคุณแม่ให้ได้ และจะเห็นเป็นประจำเลยคือคุณนัทจะโทร.หา ส่งเสียงพูดคุยให้คุณแม่ได้ยิน ผมก็เชื่อว่าอย่างที่ทุกคนได้เห็น คุณนัทก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณแม่ได้เท่าที่ลูกคนหนึ่งจะสามารถทำให้คุณแม่ได้ ทั้งเรื่องของบุญกุศล ทานกุศลต่างๆ และบุญบารมีที่คุณแม่และคุณนัทได้ทำอย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อวานคุณนัทก็ได้เตรียมใจไว้แล้วแหละครับ และคุณแม่ก็ได้ไปอย่างสงบ
นัท มีเรีย : "ต้องบอกเลยค่ะว่าที่นัทเป็นได้อย่างทุกวันนี้ ที่ทุกๆ คนได้เห็นว่านัทเป็นยังไง ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่จริงๆ ที่ปลูกฝังเลี้ยงดูมาอย่างดี คุณแม่เป็นคนเข้มแข็ง เป็นคนรักครอบครัว เป็นคนดูแลคนอื่น เราเห็นตรงนี้มาตลอด ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่า วันที่เราเข้มแข็งได้ในตอนนี้ก็มาจากที่คุณแม่ทำให้เราเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน จากที่เราเข้มแข็งน้อย เราก็เข้มแข็งมากขึ้น จริงๆ เราเข้มแข็งน้อยกว่าเขาอีก เพราะเขาป่วยเนอะ เขาค่อนข้างจะทนทุกข์ทรมานกว่าเราเยอะ แต่เราก็มีหน้าที่ทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด ตัวเขาก็ดำรงชีวิตของเขา และเราก็ดำรงชีวิตของเราไปด้วยกันได้ ให้เรียนรู้ในตัวซึ่งกันและกัน รวมถึงคนรอบข้างด้วย"
คุณแม่ยังมีเป็นห่วงอะไรอีกไหม ?
นัท มีเรีย : “จริงๆ นัทไม่ทราบนะคะ แต่จากที่ได้เห็นภาพเมื่อวาน สถานการณ์ต่างๆ นัทเชื่อว่าคุณแม่น่าจะหลับสบาย เพราะคุณแม่สวยงามมาก ตาปิดสนิท เหมือนคนนอนหลับไปเฉยๆ เลย นัทก็อาบน้ำ สระผม แต่งตัวให้ อยู่ด้วยกันหลายชั่วโมงมากเลยค่ะ รู้สึกเหมือนเขานอนไปเฉยๆ เขาแพลนทุกอย่างไว้ให้เราดีหมดแล้วทุกอย่าง”
หลังจากนี้เราก็จะไม่ได้ทำอะไรแบบเดิมเหมือน ใจหายไหม ?
นัท มีเรีย : “ก็ไม่ได้ทำแบบเดิม แต่ทุกอย่างยังอยู่ในใจเราตลอดนะคะ เราแค่คิด เราก็มีความสุข บางอย่างเราก็ได้ปฏิบัติในช่วงที่เขายังปกติดี หรือในช่วงที่เขาอาจจะดูแลตัวเองไม่ได้ เราก็ขอดูแลและทำหน้าที่ของเรา ส่วนต่อจากนี้เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ”
เรามีความตั้งใจอยากจะทำให้ท่านอีกไหม ?
นัท มีเรีย : “ไม่มีค่ะ บอกตรงๆ เลยว่าที่ผ่านมาเราทุกคนในครอบครัว เวลาเราทำอะไรก็จะนึกถึงคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เราจะอุทิศให้กับทุกคนในครอบครัว ซึ่งเราก็เอ่ยชื่ออยู่แล้วนะคะ นัทเลยคิดว่าทุกอย่างที่ทำคือทำมาเป็นประจำจนเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีอะไรต้องพิเศษ มันเป็นไปเหมือนทุกๆ วัน”
ได้รับกำลังใจเยอะมาก ?
นัท มีเรีย : “ค่ะ ก็ได้กำลังใจเยอะมาก ตั้งแต่คนในครอบครัว ไปจนถึงเพื่อนสนิท เพื่อนทุกๆ คน ทั้งในวงการและนอกวงการค่ะ นัทแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเลยค่ะ เพราะพอทราบข่าวทุกคนต่างทำหน้าที่ให้นัทหมดเลย จนนัทรู้สึกปลื้มใจ ก็อยากจะขอบคุณจากใจจริงๆ สำหรับทุกๆ ท่านที่ให้การช่วยเหลือ และดูแลนัทเสมอมา”
