ผวาฟ้าแดง! โพสต์สนั่นโซเชียลผวาฟ้าแดงคล้ายมหาวิปโยค “แหลมตะลุมพุก” เมื่อปี 2505 นอภ.สิชลลุยกลางดึกพบชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงยืนยันพร้อมอพยพทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อค่ำวานนี้ (2 ม.ค. ) ที่หน้าป้อมยามสายตรวจชุมชน ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตั้งเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ อุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ของอำเภอสิชล นายไพบูลย์ นาคทิพย์พิมาน นายอำเภอสิชล พร้อมด้วย พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกการรับพิเศษสิชล พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพง์ ผกก.สภ.สิชล และหัวหน้าส่วนราช รัฐวิสาหกิจ กำนัน ผู้บริหารองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ ปภ.และหนาวยกู้ภัยมูลนิธิต่างๆในพื้นที่ อ.สิชล ได้ประชุมเตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “ปาบึก” (PABUK) โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. ทำให้บริเวณพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และอาจทำให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวเกิดอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากด้วย
ที่ประชุมได้มีการชี้แจงและสั่งเตรียมอพยพราษฎรที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลปากน้ำสิชล ซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย โดยมีการกระจายจุดอพยพจำนวน 11 แห่ง ในพื้นที่อำเภอสิชล และมีการจัดเตรียมการจุดอพยพทุกจุดไว้อย่างดี เพื่อให้ผู้อพยพทุกคนกินอิ่มนอนหลับ โดยกำหนดอพยพราษฎรในเช้าวันวันนี้ (3 ม.ค.) ทันที
หลังจากที่เสร็จการประชุม นายไพบูลย์ นาคทิพย์พิมาน นายอำเภอสิชล พร้อมด้วย พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกการรับพิเศษสิชลได้ลงพื้นที่บ้านฝ่ายท่า หมู่ 1 ต.ทุ่งใส อ.สิชล ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงติดริมทะเลและคลองปากน้ำสิชลมีประชากรกว่า 2,000 คน เพื่อชี้แจงข้อมูลของพายุและขอให้มีการอพยพชาวบ้านทั้งหมดไปอยู่ที่โรงเรียนบ้านห้วยทรายทอง หมู่ 3 ต.ทุ่งใส อ.สิชล ซึ่งตลอดทั้งคืนนายอำเภอสิชลและ ผบ.ค่ายฝึกรบพิเศษ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเพื่อตรวจสอบและติดตามสถานการณ์พายุร้ายอย่างต่อเนื่อง
ส่วนเรือประมงทุกขนาดได้รีบทยอยเข้าฝั่งและมาจอดหลบคลื่นในคลองปากน้ำสิชล และทยอยนำเข้าไปหลบพายุในคลองคลองสิชลทั้งหมด เพื่อเกรงว่าการจอดเทียบท่าบริเวณปากอ่าวหากลมพายุพัดถล่มรุนแรงอาจจะไม่ปลอดภัย เรืออาจอับปางได้รับความเสียหายได้
ทางด้านราษฎรที่อยู่ตามแนวชายฝั่งในพื้นที่ หมู่ 1 ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หวาดกลัวไม่กล้านอนที่บ้านเพราะเกรงว่าพายุ “ปาบึก”จะพัดถล่มเข้ามาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จึงรีบอพยพย้ายกลางดึกมานอนที่โรงเรียนที่อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลหลายกิโลเมตร เพราะเชื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นจะปลอดภัยมากกว่า โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ได้เข้าไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากที่พื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกโซเชียลได้มีการนำภาพท้องฟ้าสีแดงหรือที่เรียกว่า “ท้องฟ้าสีเลือด” คล้ายเหตุการณ์มหาวาตภัย “พายุแฮเรียต” ที่พัดถล่มแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2505 ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหายจำนวนมาก ทำให้มีการนำภาพดังกล่าวไปโพสต์ต่อ ๆ กัน และมีการระบุว่าเป็นภาพในพื้นที่ อ.สิชลบ้าง ที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนังบ้าง สร้างความหวาดผวาให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามได้มีคนที่นำภาพไปโพสต์และระบุว่าเป็นพ้นที่ อ.สิชล ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า “ผมได้ภาพมาแล้วรีบโพสต์ ตรวจเช็คแล้วไม่ใช่ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช แต่เป็นภาพที่ตลาดเอื้ออารี ละแม ชุมพร”