เรือประมงพื้นบ้านนราธิวาสจอดเทียบท่าชายฝั่งกว่า 1,000 ลำ หวั่นได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก เนื่องจากกลางทะเลเริ่มมีคลื่นลมแรง
วันที่ 2 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหาดนราทัศน์ บ้านบาเล๊ะฮิเล ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส เรือประมงเริ่มหยุดออกเรือ เนื่องจากกลางทะเลเริ่มมีคลื่นลมแรง หวั่นเพายุโซนร้อนปาบึก ในทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าสู่อ่าวไทยประมาณวันที่ 3 – 5 ม.ค.62 จะส่งผลทำให้จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส โดยเฉพาะในวันที่ 3 - 4 มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่
ในช่วงดังกล่าวควรเพิ่มการเฝ้าระวังและระมัดระวัง ความเสียหายที่เกิดจากฝนตกหนัก นอกจากนี้พายุดังกล่าวยังสามารถทำให้เกิดคลื่นซัดฝั่งตามแนวชายฝั่งของ จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส ประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลควรเพิ่มความระมัดระวัง อนึ่งจากการประเมินสภาวะอากาศวันนี้ศูนย์กลางพายุไม่ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่ จ.ปัตตานี และนราธิวาส
สำหรับผลกระทบคือ เรือประมงพื้นบ้านกว่า 1,000 ลำ ในพื้นที่บ้านทอน บ้านบาเละฮีเล อ.เมือง และบ้านเจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทั้งหมดต้องจอดเรียงรายอยู่ชายฝั่งไม่กล้าเสี่ยงออกทะเลเพราะอาจถูกคลื่นซัดเรืออับปางได้ และชาวประมงพื้นบ้านบางส่วนต้องออกมาทอดแหบริเวณชายฝั่งเพื่อหารายได้เสริมในช่วงที่ต้องหยุดออกเรือยาวไปอีกอย่างน้อย6วัน แม้ว่าทะเลอ่าวไทยตอนล่างจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็ตาม
ด้าน นายวีรชัย วุธางกูร ชาวบ้านกลุ่มประมงพื้นบ้าน กล่าวว่า ชีวิตการประมงถ้ามรสุมมาก ถามว่าเดือดร้อนไหมก็เดือดร้อน เพราะปลาในกระชังเลี้ยงปลา หากมีการปล่อยน้ำจืดมามาก หรือมีการปิดเขื่อนซึ่งบางส่วนทำให้ปลาน็อคน้ำ ซึ่งชาวประมงก็จะมีการออกไปดูตรงริมชายหาด ช่วงเช้าก่อนจะออกเรือต้องดูคลื่นลม หากว่าวันนี้พายุจะมาตามที่ข่าวบอก ทุกคนก็จะไม่ออก แต่ว่าในช่วง นี้คือช่วงมรสุม ฤดูมรสุม เรือประมงก็จะไม่ออก ซึ่งก็จะจอดเทียบท่าทุกลำกว่า 1,000 ลำ ซึ่งก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้เพราะว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ว่าบางคน ที่ออกทะเลไม่ได้ก็จะออกหาปลาริมแม่น้ำ ซึ่งชาวประมงต้องหาเช้ากินค่ำเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ต้องออกหาปลาใกล้ๆริมแม่น้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และหาเลี้ยงครอบครัวประทังชีวิต