พปชร.แถลงปัดเอี่ยว สมัครสมาชิกแลกบัตรคนจน

2018-12-24 13:10:32

พปชร.แถลงปัดเอี่ยว สมัครสมาชิกแลกบัตรคนจน

Advertisement

พปชร.ตั้งโต๊ะแจงคลิปรับสมัครสมาชิกแลกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เกี่ยวกับพรรค ชี้ ฝ่าย ก.ม.เร่งตรวจสอบ หากพบผิด ตัดสิทธิ์ผู้สมัครทันที

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ธ.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียน พปชร. พร้อมด้วยนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการบริหารพรรค ร่วมกันแถลงกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุว่า มีการเก็บตกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีการโฆษณาชวนให้มาลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิก พปชร.พร้อมสนับสนุนพรรค ถ้าใครไม่ลงทะเบียนพรรค จะไม่ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 


นายวิเชียร กล่าวว่า พรรคขอแถลงให้ประชาชนและสื่อมวลชนทราบว่าการรณรงค์เพื่อรับสมัครสมาชิกพรรคที่ผ่านมา และที่กำลังดำเนินการอยู่มีวัตถุประสงค์และวิธีการดังนี้ 1.พรรคจะรับสมัครสมาชิกพรรคโดยผู้สมัครเดินทางมาสมัครด้วยตนเองที่สำนักงานใหญ่ของพรรคถนนรัชดาภิเษก กทม. และที่ทำการสาขาพรรค 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.ร้อยเอ็ด ภาคกลาง ที่ จ.สิงห์บุรี และภาคใต้ ที่ จ.กระบี่ เท่านั้น 2.ส่วนการรับสมัครสมาชิกผ่านสมาชิกตัวแทนของพรรคในแต่ละจังหวัดได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และไม่มีนโยบายการรณรงค์หาสมัครสมาชิกอื่นแต่อย่างใดและขณะนี้พรรคมีสมาชิกเกือบ 3 หมื่นคน ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 หมื่นคนแล้ว


นายชวลิต กล่าวว่า สำหรับกระบวนการรับสมัครสมาชิกผ่านตัวแทนของพรรคที่ผ่านมา พรรคได้เน้นให้ความสมัครใจของประชาชนเฉพาะผู้ที่ศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรค เสียค่าสมัครด้วยตนเองพร้อมแนบสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชนและรูปถ่าย รวมถึงเงินค่าธรรมเนียมเป็นสมาชิก 50 บาทต่อปี ซึ่งพรรคได้ตรวจสอบความถูกต้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 30 อย่างเคร่งครัดและที่ผ่านมาพรรคได้เคยตักเตือนสมาชิกที่กระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับก่อนที่จะมีการปลดล็อกทางการเมือง รวมทั้งตัดสิทธิ์ในการเป็นผู้แสดงเจตจำนงค์เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งไปแล้วส่วนหนึ่ง เรื่องนี้พรรคได้ให้ทีมกฎหมายลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร


“หากพบว่ามีสมาชิกของพรรคคนใดจูงใจให้มีการกระทำผิด ฝ่าฝืนหลักการ พรรคจะดำเนินการลงโทษอย่างเฉียบขาดตามข้อบังคับพรรค ซึ่งผลการตรวจสอบน่าจะเสร็จสิ้นก่อนการรับสมัคร ส.ส. และถ้าพบว่ากระทำผิดถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค เพราะมีข้อกำหนดระบุไว้ชัดเจน พากพบว่าทำผิดจริงก็ต้องตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้สมัครของพรรคแน่นอน”นายทะเบียนพรรค กล่าว 

ด้านนายสุรพร กล่าวว่า บทลงโทษของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 30 มีโทษรุนแรงมาก คือตัดสิทธิ์ผู้สมัครทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และหากพบว่าพรรคตั้นสังกัดไม่ยับยั้งหรือจัดการใดๆ จะนำไปสู่การยุบพรรคได้ จึงต้องให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบให้ชัดเจน ซึ่งทีมกฎหมายของพรรคจะไปสอบถามจากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร ที่ถูกพาดพิงในคลิปที่มีการเผยแพร่ว่าข้อเท้จจริงเป็นอย่างไร ขณะที่บุคคลที่เผยแพร่คลิปนั้นเบื้องต้นอาจจะเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือต้องการช่วยเหลือบุคคลอื่นที่ยังไม่เข้าใจขั้นตอนของการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็เป็นได้ แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค เพราะเรื่องบัตรสวัสดิการถือเป็นนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หากว่าที่ผู้สมัครฯจะไปลงบันทึกประจำวันเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงไว้ก่อนก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่ทำได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ช่วงเช้า นายพิกิฏ ศรีชนะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกพาดพิงในคลิปดังกล่าว ได้ลงบันทึกประจำดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่คลิปตามความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไว้ที่ส.ภ.เลิงนกทา จ.ยโสธร เพื่อเป็นหลักฐานแล้ว