ครอบครัว “น้องฟอส”ระส่ำหนัก พ่อหวนกลับไปกินเหล้า แถมป่วยจิตเวช ส่วนแม่ขาดเสาหลักต้องรับจ้างเลี้ยงหลานดูแลบ้านญาติหารายได้จุนเจือครอบครัว
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ น้องฟอส อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี ชาว อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา บริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยคดีนี้มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด รวมถึง นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน” ผู้ลงมือสังหาร ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นางจอมศรี ชมพูพื้น อายุ 44 ปี แม่น้องฟอส กล่าวว่า เมื่อวานนี้หลังจากไปขึ้นศาลได้แวะไปยังจุดเกิดเหตุที่เขาชีจรรย์ เพื่อไปเรียกขวัญและดวงวิญญาณของลูกให้กลับไปอยู่ที่บ้านตามคำที่หลวงพ่อที่บ้านนาตาล อ.ท่าคันโท ได้มาชี้แนะ เพราะหลังจากงานฌาปนกิจศพแล้วญาติพี่น้องและคนในครอบครัวก็ยังฝันเห็นน้องฟอส ยังวนเวียนไม่ไปไหน ด้วยเหตุนี้จึงได้เข้าไปสอบถามขอคำชี้แนะจากหลวงพ่อซึ่งทุกคนในครอบครัวก็เห็นว่าน่าจะเป็นความจริงจึงได้ไปยังที่เกิดเหตุทำพิธีเรียกดวงวิญญาณเพื่อความสบายใจ ขณะเดียวกันตนต้องมารับภาระมาเป็นเสาหลักของครอบครัวอีกครั้งหลังสูญเสียลูกชายไป
“พ่อของฟอสสภาพจิตใจย่ำแย่ กลับมาดื่มเหล้าอย่างหนักทั้งยังกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ต้องกินยาคลายเครียดยานอนหลับอยู่ตลอด ส่วนยายที่เป็นคนเลี้ยงดูน้องฟอส บางวันยังร้องเรียกหาน้องฟอสไม่ขาด ส่วนคนเป็นแม่ยังต้องเข้มแข็งต้องกลับมาเป็นเสาหลักให้ครอบครัวต้องหาเงินมาจุนเจือครอบครัวรับจ้างเลี้ยงหลาน ดูแลบ้านให้ญาติก็พอมีเงินได้ใช้ ส่วนเรื่องคดีมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่จะมีผู้ใหญ่มาดูแลคดีนี้ มั่นใจว่าคนที่ทำผิดต้องได้รับโทษตามที่ทำผิด” นางจอมศรี กล่าว