สาวแจ้งจับเว็บไซต์กุข่าวถูกฆ่าโยนทะเล

2018-12-15 20:25:38

สาวแจ้งจับเว็บไซต์กุข่าวถูกฆ่าโยนทะเล

Advertisement

สาวโร่แจ้งความดำเนินคดีเว็บไซต์กุข่าวถูกฆ่าโยนศพทิ้งกลางทะเลชะอำ วอนอย่าแชร์ต่อไม่ใช่เรื่องจริง

จากกรณีที่มีเว็บไซต์ https://gmmwork.com/GM/1176 ได้โพสต์ข่าว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมนำภาพของหญิงสาวคนหนึ่งมาเป็นภาพประกอบในข่าวว่าหญิงคนดังกล่าวได้ถูกกลุ่มคนร้ายชาย 3 คนกระชากสร้อยก่อนจับหญิงสาวโยนลงทะเลจนเสียชีวิตที่ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี จากนั้นมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและกดแชร์กันเป็นจำนวนมาก โดยในเนื้อข่าวระบุว่า “ปิดหาดชะอำนาน 17 ชม. ค้นจนเจอ นศ.สาว โดนกระชากทอง จับโดนทะเล พบแล้วนักศึกษาที่หายตัวไปกลางดึกริมหาดชะอำที่เป็นข่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัยชะอำและสถานีตำรวจภูธรชะอำนำกำลัง 50 นาย ปิดหาดชะอำแถบตะวันออก ใช้เวลาค้นหาหลักฐานจนไปเจอรอยเท้านำทางไปเจอศพถูกจับถ่วงน้ำอยู่กลางทะเล เมื่อคืนวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา


เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. น.ส.เมธาวี เนียมศรี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ที่ 8 ต.หนองขนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นหญิงสาวคนเดียวกับที่อยู่ในภาพที่ตกเป็นข่าวปลอมในเว็บไซต์ดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สารัช เภาศรี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี พร้อมนำหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเว็บไซต์ดังกล่าวที่นำเอาภาพของตนเองมาลงข่าวซึ่งไม่เป็นความจริงทำให้ตนเองและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง


น.ส.เมธาวี กล่าวว่า ทราบข่าวช่วงค่ำวันที่ 14 ธ.ค.ว่ามีคนนำภาพตนเองไปโพสต์ลงในเว็บไซต์อย่างเสียหาย รู้สึกตกใจและสะเทือนใจมากแม้จะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม จากนั้นได้มีเพื่อนๆอีกหลายคนโทรมาสอบถามต้องชี้แจงให้ทราบว่าไม่ใช่เรื่องจริง ตนเองก็อยู่บ้านใช้ชีวิตตามปกติ ข่าวดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับตนเองเป็นอย่างมากและวอนขออย่าได้แชร์ต่อเพราะไม่ใช่เรื่องจริง

ด้านนายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ ได้ออกมาชี้แจงถึงผู้ไม่หวังดีโพสต์ข่าวอันเป็นเท็จลงโซเชียลมีเดียจนสร้างความเสียหายด้านการท่องเที่ยวให้แก่เมืองชะอำเป็นอย่างมาก ขอยืนยันว่าข่าวดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงและทราบว่าหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกนำภาพไปโพสต์ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว จึงอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลข่าวสารให้ดีเสียก่อนและไม่แชร์ข้อมูลข่าวสารดังกล่าว ซึ่งการแชร์ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จต่อไปให้ผู้อื่นนอกจากมีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้วยังสร้างความเสียหายในภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเมืองชะอำ ผู้ประกอบการและสถานที่ต่างๆจึงขอฝากประชาชนในเรื่องนี้ด้วย