“คุณหญิงสุดารัตน์” ติงการบริหารจัดการที่ไม่เข้าใจ ยอมทำตามต่างชาติโดยไม่พูดจาต่อรองให้เหมาะสม ส่งผลต่อรายได้การส่งออกสัตว์น้ำ สวนทางกับการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น ระบุถ้าบริหารจัดการเป็น จะสามารถนำรายได้จากประมงกลับเข้าประเทศได้อีกครั้ง
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับฟังปัญหา ด้านการประมง พร้อมปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการประมง อย่างยั่งยืน และต่อยอดพัฒนาธุรกิจประมง นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ยังได้รับฟังปัญหาเพื่อนำไปพัฒนาเป็นนโยบายแก้ปัญหา ด้านการประมงที่เกิดขึ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จากสมาคมชาวประมงจากทั่วประเทศ
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา การบริหารจัดการที่ไม่เข้าใจ และยินยอมทำตามต่างชาติโดยไม่ได้พูดจาต่อรองให้เหมาะสมส่งผลต่อรายได้ โดยเฉพาะการส่งออกสัตว์น้ำ ซึ่งอดีตเคยส่งออกได้ถึง 1.6 ล้านตันต่อปี สวนทางกับการนำเข้าสัตว์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้รายได้จากการประมง ควรเป็นรายได้ที่นำมาพัฒนาหรือส่งเสริมประเทศได้ อดีตเรือประมงเคยมีอยู่ถึง 80,000 ลำ ปัจจุบันมีชาวประมงที่ออกเรือประมาณ 30,000 ลำเท่านั้น เหล่านี้คือปัญหา ที่แม้จะมีเรื่องของกติกาสากลเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถ้าบริหารจัดการ อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถนำรายได้จากประมงกลับเข้าสู่ประเทศได้อีกครั้ง ซึ่งมีผลต่อการยกระดับทางเศรษฐกิจ
ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า 3-4 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเสียโอกาสให้กับเพื่อนบ้านอย่างมาก กลายเป็นจุดอ่อนอีกหนึ่งทางของประเทศ ซึ่งมีผลกระทบต่อคนที่อยู่ในธุรกิจของประมง รวมถึงรายได้ของประเทศหดหายไปพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะมุ่งผลักดันให้เกิดความเสมอภาคโดยเฉพาะในแง่ของกฎหมาย รวมถึงจะคว้าโอกาสในโลกยุคใหม่ และต่อยอดไปสู่การพัฒนาครัวไทยสู่ครัวโลกซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาคการเกษตร รวมถึงภาคการประมง ดังนั้นต้องมาคิดว่าทำอย่างไรให้อาหารไทยเป็นอาหารที่มีคุณภาพของโลก และเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยของโลก ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะต้องประสบความสำเร็จ เพียงอยู่ที่การบริหารจัดการให้เป็น