พท.แนะ คสช.แก้บัตรเลือกตั้ง พรรคเดียวเบอร์เดียว

2018-12-13 09:06:20

พท.แนะ คสช.แก้บัตรเลือกตั้ง พรรคเดียวเบอร์เดียว

Advertisement

“ชุมสาย“ เตือน กกต.-คสช.หาทางออกปัญหาบัตรเลือกตั้งโดยเร็ว ชี้ ม.48 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 ส่อขัดต่อเจตนารมณ์ รธน. แนะ คสช.ใช้ ม.44 แก้ไข เพื่อให้มีบัตรเลือกตั้งพรรคเดียวเบอร์เดียวทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.นายชุมสาย ศรียาภัย คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เมื่อได้พิจารณา พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 48 แล้วเห็นว่า กฎหมายกำหนดวิธีการเลือกตั้งที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและพรรคการเมือง คือเรื่องเบอร์ของผู้สมัครที่ให้ผู้สมัครแต่ละเขตจับสลากเรียงหมายเลขในแต่ละเขต ซึ่งอาจขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ผิดไปจากรูปแบบที่เป็นสากลและที่ประชาชนคุ้นชินในการเลือกตั้งทุก ๆครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 26 ด้วย

นายชุมสาย กล่าวว่า น่าเสียใจที่คณะผู้ยกร่างกฎหมายฉบับนี้อาจไม่ได้ตรวจดูความมุ่งหมายแห่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ และไม่ได้ประเมินปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการจัดการเลือกตั้งของประเทศได้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวน่าจะเล็งเห็นผลถึงปัญหานี้ได้ จนน่าเชื่อว่าเป็นการออกแบบกฎหมายโดยมีวาระซ่อนเร้นอะไร และมาจากใบสั่งของผู้ใดหรือไม่ ล่าสุดได้มีความพยายามจะไม่ให้มีโลโก้ในบัตรเลือกตั้งอีก ยิ่งเพิ่มความยุ่งยากสับสนเป็นอุปสรรคต่อประชาชนผู้ใช้สิทธิลงคะแนนหนักเข้าไปอีก จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับประเทศนี้อย่างยิ่ง




“ขอเตือนไปยัง กกต.ว่า ในฐานะที่ท่านได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนในการเข้ารับหน้าที่แล้ว มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว จึงขอให้ท่านมีความกล้าหาญ รักษากฎหมาย ความสุจริต เที่ยงธรรมให้มั่นคง ยึดประโยชน์ของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยเป็นที่ตั้ง”นายชุมสาย กล่าว

นายชุมสาย กล่าวอีกว่า คสช.ซึ่งก็เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหากจะเห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนโดยแท้จริงสักครั้ง ขอให้ช่วยป้องกันสถานการณ์ยุ่งยากที่จะมาถึงในการเลือกตั้งครั้งหน้า และเพื่อให้ประเทศ สังคม เศรษฐกิจ เดินหน้าไปได้ ขอให้ คสช.ใช้อำนาจที่มีอยู่แก้ไขมาตรา 48 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561เพื่อให้มีบัตรเลือกตั้งเบอร์เดียว 1 พรรคทุกพรรคทั่วประเทศ และแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับพรรค เบอร์ รายชื่อผู้สมัคร ให้ครบถ้วนเหมือนที่เคยปฏิบัติมา หากปล่อยไปเช่นนี้วันดีคืนดีอาจมีใครไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และหากศาลเห็นพ้องด้วย การเลือกตั้งอาจจะเสียเปล่าไป ประชาชนประเทศชาติสูญเสียโอกาส และอาจสูญเสียงบประมาณในการจัดเลือกตั้งประมาณ 5,500 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้