“ลดาวัลลิ์” เตือน “บิ๊กตู่” อย่าดูถูกประชาชนไปบอกให้วางแผนการใช้เงิน 500 บาท แนะขอโทษประชาชนที่ได้รับบัตรคนจน แต่อยู่ในข่ายไม่จนจริง ชี้ไม่ใช่เป็นความผิดของประชาชน แต่เป็นความผิดของรัฐบาลที่สั่งให้ จนท.เร่งจัดทำบัตรคนจนแจกก่อนเลือกตั้ง จึงขาดความรอบคอบ
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวย้อนถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ว่าจะตอบอย่างไรเมื่อเห็นแผนการใช้จ่ายเงินของประชาชนที่ได้รับแจกเป็นของขวัญปีใหม่คนละจำนวน 500 บาท ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายหลังจากที่ได้แนะนำให้คนที่ได้รับวางแผนการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม เพราะมีประชาชนเป็นจำนวนมากมีความรู้สึกว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่มากพอจนที่จะสามารถกำหนดแผนการใช้จ่ายได้ เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดีย ส่วนใหญ่จะเป็นการตอบกลับในเชิงประชดประชัน บางรายถึงกับแจกแจงให้เห็นเลยว่าจะใช้เงินไปทำอะไรบ้าง บางรายก็บอกจะซื้อเหล้า เมื่อพิจารณาข้อความต่างๆที่ประชาชนแสดงความรู้สึกต่อกรณีดังกล่าวแล้วก็เข้าใจดีว่าเพราะอะไรประชาชนเป็นจำนวนมากถึงมีปฏิกิริยาในทางลบทันทีเมื่อได้ยินพล.อ.ประยุทธ์ บอกให้วางแผนการใช้จ่ายเงิน 500บาทอย่างรอบคอบ
นางลดาวัลลิ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นคงจะเป็นบทเรียนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นอย่างดีว่าอย่าดูถูกประชาชนว่าไร้ความคิดไม่สามารถบริหารจัดการเงินที่ได้รับแจกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคนที่ได้รับล้วนเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะกันแล้ว และเมื่อพิจารณาตามข้อเท็จจริงเงินเพียงแค่ 500 บาท ที่ประชาชนได้รับแจกนั้นไม่มากเลย อาจจะน้อยกว่าเงินที่พล.อ.ประยุทธ์เคยแจกทิปให้เด็กเสริฟในร้านอาหารด้วยซ้ำ จะซื้ออะไรได้กี่อย่าง วันนี้สินค้าต่างๆก็มีราคาแพงขึ้น ทั้งๆที่โดยข้อเท็จจริงแล้วเงินหรือสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ประชาชนควรจะได้รับตลอด 4 ปีที่ผ่านมาน่าจะได้มากกว่านี้หลายร้อยเท่า จะไม่เกิดรวยกระจุก จนกระจายขึ้น หากรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำได้อย่างที่เคยสัญญาเอาไว้นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ควรจะขอโทษประชาชนที่ได้รับบัตรคนจน แต่อยู่ในข่ายไม่จนจริง อาจจะถูกยึดบัตรคืนตามที่เป็นข่าว เพราะไม่ใช่เป็นความผิดของประชาชนผู้ได้รับบัตร แต่เป็นความผิดของรัฐบาลที่สั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐเร่งจัดทำบัตรคนจนแจกก่อนเลือกตั้ง จึงขาดความรอบคอบและแจกผิดหลักเกณท์ จึงน่าสงสัยว่ารัฐบาลต้องการปริมาณคนจนจำนวนมากๆเพื่อหวังผลการเมืองหรือไม่ จนกระทั่งเกิดข้อผิดพลาดในทางปฏิบัติ ระวังจะเป็นการทำร้ายจิตใจประชาชนหากจะถูกยึดบัตรคืน คาดว่าน่าจะมีจำนวนมากในแต่ละจังหวัด