พลเมืองญี่ปุ่นมากกว่า 200 คน ซึ่งรวมทั้งสมาชิกกลุ่มคริสเตียน และพระภิกษุสงฆ์ ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ กรณีมีแผนใช้เงินของประชาชนผู้เสียภาษีสำหรับจัดพิธีการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่
ประชาชนประมาณ 240 คน ร่วมยื่นฟ้องร้องต่อศาลแขวงในกรุงโตเกียว แย้งว่า การใช้เงินจากงบประมาณแผ่นดินในพิธี ซึ่งพวกเขาบอกว่า เป็นพิธีกรรมทางศาสนา ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญที่แยกกันต่างหากระหว่างศาสนาและรัฐ เชื่อกันว่าเป็นการยื่นฟ้องร้องครั้งแรก กรณีการขึ้นครองราชย์ของเจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ดอกเบญจมาศ ที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 พฤษภาคม หนึ่งวันหลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระราชบิดา สละราชบัลลังก์ในวันที่ 30 เมษายน 2562
งบประมาณที่จะใช้ในพิธีในปีหน้านั้น ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่รัฐบาลแถลงว่า จะปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี
โกอิชิ ชิน หนึ่งในผู้ฟ้องร้อง กล่าวว่า พิธีในปี 2533 หลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ขึ้นครองราชย์สมบัติ ค่าใช้จ่ายตกประมาณ 12,300 ล้านเยน ในขณะนั้น (ซึ่งปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
การฟ้องร้องครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากเจ้าชายอากิชิโนะ พระโอรสองค์เล็กของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก กรณีมีแผนใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน ในพิธีกรรมทางศาสนาที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นครองราชย์ของเจ้าชายนารุฮิโตะ
เจ้าชายอากิชิโนะ ซึ่งตรัสในที่แถลงข่าวปลายเดือนที่แล้ว ตรัสว่า พิธีกรรมทางศาสนาที่เรียกว่า ไดโจไซ หรือพระราชพิธีพืชมงคล ขอบคุณการเก็บเกี่ยวพืชผลครั้งแรกในรัชกาลใหม่ ในเดือนพฤศจิกายน เป็นพิธีกรรมทางศาสนาระดับสูง พระองค์ทรงสงสัยว่า มันมีความเหมาะสมในการใช้งบประมาณแผ่นดินกับพิธีกรรมทางศาสนาระดับสูงหรือไม่
ชิน กล่าวกับเอเอฟพีว่า กลุ่มผู้ฟ้องร้องต้องการให้ระงับค่าใช้จ่ายจากงบประมาณของรัฐสำหรับพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งรวมทั้งพิธีไดโจไซ