เจ้าหญิงมาซาโกะ พระวรชายาในเจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ที่เตรียมเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักพรรดิ ในเดือน เม.ย.ปีหน้า ทรงเผยในระหว่างการประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุ 55 ชันษา เมื่อวันอาทิตย์ (9 ธ.ค.) ว่า แม้พระองค์จะรู้สึกหวั่นไหว เกี่ยวกับการขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีพระองค์ใหม่ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ก็พร้อมที่จะปฏิบัติพระราชกรณียกิจให้ดีที่สุด เพื่อความสุขของปวงชนชาวญี่ปุ่น
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ จะสละราชสมบัติ ในวันที่ 30 เม.ย. 2562 ซึ่งเป็นการสละราชบัลลังก์ในราชวงศ์ดอกเบญจมาศ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ศตวรรษ พระโอรสองค์โตของพระองค์ และพระสวามีของเจ้าหญิงมาซาโกะ จะขึ้นครองราชย์ในวันถัดไป
เจ้าหญิงมาซาโกะทรงสำเร็จการศึกษาจาก 2 สถาบันชื่อดังระดับโลกคือ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดในอังกฤษ แต่สละหนทางสู่อนาคตนักการทูต และเสกสมรสกับเจ้าชายนารุฮิโตะในปี พ.ศ. 2536 พระองค์ทรงให้กำเนิดเจ้าหญิงไอโกะ พระธิดา เมื่อปี 2544 แต่ยังคงเผชิญแรงกดดันต่อไป เพื่อไม่มีพระโอรส เนื่องจากเจ้าชายเท่านั้นที่จะสามารถสืบทอดราชบัลลังก์ ตามกฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่น
แต่แรงกดดันผ่อนคลายลงในปี 2549 เมื่อเจ้าชายอากิชิโนะ พระอนุชาของเจ้าชายนารุฮิโตะ และเจ้าหญิงคิโกะ พระชายา ทรงให้กำเนิดเจ้าชายฮิสะฮิโตะ ซึ่งปัจจุบันมีพระชันษา 12 ปี
เจ้าหญิงมาซาโกะแทบไม่ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนนับตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากต้องรักษาพระองค์จากโรคความเครียด จากการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในพระราชวัง และในระหว่างการประทานสัมภาษณ์ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหญิงมาซาโกะ เผยว่า พระองค์กำลังฟื้นจากอาการป่วยโรคเครียด ก่อนพระสวามีเข้าสู่พิธีพระจักพรรดิตราภิเษก
เจ้าหญิงมาซาโกะ ตรัสว่า พระองค์รู้สึกดีใจที่สามารถประกอบราชกรณียกิจได้มากกว่าเมื่อก่อน ขณะที่พยายามปรับปรุงสภาพร่างกายของตนเอง
แต่แพทย์ประจำพระองค์เตือนในแถลงการณ์แยกต่างหากว่า เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารี จะทรงรักษาโรคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังทรงมีพระอาการเหนื่อยล้าบ่อยครั้ง โดยเฉพาะหลังจากงานพิธีสำคัญ หรือกรณียกิจที่ต่อเนื่อง