ยุติแล้วบ้านป่าแหว่งห้ามอยู่บ้านเดี่ยว 45 หลัง

2018-12-07 16:45:46

ยุติแล้วบ้านป่าแหว่งห้ามอยู่บ้านเดี่ยว 45 หลัง

Advertisement

“สุวพันธุ์” ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีมติ เห็นสมควรไม่ให้มีผู้เข้าพักอาศัยบ้านพักเดี่ยว 45 หลัง พร้อมมอบหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการฟื้นฟูให้เป็นป่าที่สมบูรณ์ต่อไป ส่วนอาคารชุด 9 หลัง ที่มีการพักอาศัยอยู่แล้ว ให้อยู่อาศัยต่อไปตามความจำเป็น

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการ ได้ประชุมเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ประชุม โดยคณะกรรมการฯเห็นสมควรกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาดังนี้ 1.กรณีบ้านพักเดี่ยว 45 หลัง จากรายงานผลการศึกษาในด้านสังคม วัฒนธรรม ด้านนิเวศวิทยา สิ่งแวดล้อม และด้านวิศวกรรม เห็นสมควรไม่ให้มีผู้เข้าพักอาศัยในบ้านพักดังกล่าว โดยมอบให้ จ.เชียงใหม่ กรมธนารักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มณฑลทหารบกที่ 33 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5ประสานงานกับสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อดำเนินการฟื้นฟูให้เป็นป่าที่สมบูรณ์

2.การปลูกต้นไม้และฟื้นฟูความสมบูรณ์บริเวณบ้านพักเดี่ยว 45หลัง และบริเวณโดยรอบ ให้ดำเนินการทันที มอบ จ.เชียงใหม่ กรมธนารักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มณฑลทหารบกที่ 33 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ดำเนินการร่วมกับนักวิชาการ และเครือข่ายภาคประชาชน โดยให้ จ.เชียงใหม่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อจัดทำแผนงานและงบประมาณในการดำเนินการต่อไป

3.ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร เร่งรัดการอนุญาตการขอใช้ที่ดินของสำนักงานศาลยุติธรรม บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ถนนเด่นห้า – ดงมะดะ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย (ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ชร.225) เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่อยู่อาศัย และขอให้สำนักงบประมาณเร่งรัดการจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานศาลยุติธรรมใช้ในการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักอาศัยที่ จ.เชียงราย โดยคำนึงถึงความเหมาะสม การใช้จ่ายงบประมาณที่มีเหตุผล และเป็นไปตามความจำเป็น

4.การส่งคืนพื้นที่บริเวณบ้านพักเดี่ยว 45 หลัง ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 5.กรณีการรื้อถอนบ้านพักเดี่ยว 45 หลัง หากมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการในอนาคต ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามข้อกฎหมาย 6.กรณีการพักอยู่อาศัยในอาคารชุด 9 หลัง ที่มีการพักอาศัยอยู่แล้ว จากรายงานผลการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างและฟื้นฟูพื้นที่เพื่อให้เป็นป่าสมบูรณ์ ประกอบกับความจำเป็น และข้อกฎหมาย เห็นสมควรให้เป็นที่พักอยู่อาศัยต่อไปตามความจำเป็น และให้ดำเนินการปลูกต้นไม้และฟื้นฟูพื้นที่ สำหรับการดำเนินการอื่นใดเพิ่มเติมด้วยเหตุใดก็ตาม ขอให้ จ.เชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อกฎหมาย

7.ให้ จ.เชียงใหม่รายงานความคืบหน้า ผลการปฏิบัติงานเป็นระยะ ๆ ให้กับคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการตุลาการทราบ 8.ข้อเรียกร้องของเครือข่ายภาคประชาชน จ.เชียงใหม่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาศึกษาเพื่อแก้ไขปรับปรุงข้อกฎหมาย และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่การใช้ที่ดินของรัฐให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย 9.ให้นำแนวทางทั้ง 8 ประการนี้กราบเรียนนายกรัฐมนตรีและมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ต่อไป