แคนาดาจับกุมตัวบุตรสาวผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเหว่ย ยักใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน และเตรียมส่งตัวให้สหรัฐ ฐานละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านและเกาหลีเหนือ
น.ส.เมิ่ง หว่านโจว บุตรสาวของนายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัท “หัวเหว่ย” ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน ถูกจับกุมตัวในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา และเผชิญหน้ากับการถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในสหรัฐ โดยเมิ่ง รับตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และเป็นรองประธานของบริษัท ส่วนรายละเอียดของการจับกุมตัวนั้น ยังไม่มีการเปิดเผย แต่สหรัฐกำลังสอบสวนหัวเหว่ย กรณีที่มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทของจีนแห่งนี้จะละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
สถานทูตจีนในแคนาดา ประท้วงการจับกุมดังกล่าว และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอ ขณะที่หัวเหว่ย แถลงว่า มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเกี่ยวกับข้อกล่าวหา และไม่รู้เรื่องการกระทำความผิดของเมิ่ง
การจับกุมเกิดขึ้นในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานสำหรับความสัมพันธ์ของสหรัฐและจีน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศยังอยู่ในช่วงการทำสงครามการค้า ที่มหาอำนาจด้านเศรษฐกิจทั้ง 2 ต่างประกาศปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของอีกฝ่ายคิดเห็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การจับกุมจะไม่เป็นประโยชน์ต่อการระงับการขึ้นภาษีสินค้าชั่วคราว 90 วัน ที่ทั้ง 2 ประเทศตกลงกัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ประชุมร่วมกันระหว่างการร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศจี20 ในกรุงบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
กระทรวงยุติธรรมแคนาดา ยืนยันวันและสถานที่ที่เมิ่งถูกจับกุม และแถลงเพิ่มเติมว่า เธอต้องถูกส่งตัวไปยังสหรัฐ แต่การไต่สวนเรื่องการขอประกันตัว มีกำหนดในวันศุกร์นี้
ส่วนสื่อสหรัฐ รายงานว่า หัวเหว่ยตกอยู่ภายใต้การสอบสวน ฐานมีความเป็นไปได้ว่า ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐมีต่ออิหร่าน รายงานชิ้นหนึ่งในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์และคลังของสหรัฐ มีหมายเรียกบริษัทหัวเหว่ย กรณีต้องสงสัยว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรทั้งต่ออิหร่านและเกาหลีเหนือ สมาชิกรัฐสภาสหรัฐ กล่าวหาบริษัทหัวเหว่ยบ่อยครั้งว่า กำลังทำตัวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ และระบุว่า เทคโนโลยีของหัวเหว่ย อาจถูกใช้เพื่อการจารกรรมโดยรัฐบาลจีน