ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการจัดงานเลี้ยงต้อนรับสาวงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ในค่ำคืนงานราตรี Thai Night โดยสาวงามทุกคนสวมใส่ชุดราตรีที่ตัดเย็บจากผ้าไหมมัดหมี่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภายใต้คอนเซปต์ “มงคล” ไล่เรียงตามสีมงคลประจำวันของไทย จากวันจันทร์ไปจนถึงวันอาทิตย์ ได้แก่ สีเหลือง, สีชมพู, สีเขียว, สีส้ม, สีฟ้า, สีม่วง และสีแดง 
โอกาสนี้ ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานชุดแบรนด์ "SIRIVANNAVARI" ให้ "นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 สาวงามตัวแทนประเทศไทยสวมใส่ และประทานคอลเลกชั่นที่ทรงออกแบบพิเศษให้แก่ "เดมี ลีห์เนล ปีเตอร์ส" มิสยูนิเวิร์ส 2017 ซึ่งเป็นนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศแอฟริกาใต้ที่บินตรงมาร่วมงานในค่ำคืนสุดพิเศษนี้ได้สวมใส่ด้วย
ขณะที่ 19 ดีไซเนอร์สัญชาติไทยทั้งรุ่นใหญ่และสายเลือดใหม่ได้รังสรรค์ชุดราตรีด้วยผ้าไหมไทยจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้สาวงามผู้เข้าประกวดจากทั่วโลกได้สวมใส่ เพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์ของความเป็นไทยและประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักผ่านความงามวิจิตรของผ้าไหมไทย ณ ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
สำหรับชุดราตรีผ้าไหมไทยที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานให้ "นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 เป็นชุดโทนสีฟ้า เค้าโครงมาจากชุดในคอลเลกชั่น SIRIVANNAVARI Couture ที่มีการออกแบบตัดเย็บชั้นสูง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ใช้เทคนิคการร้อยและปักลูกปัดแบบ Haute Couture มีการใช้ผ้าไหมมัดหมี่ และผ้าไหมแพรวามาผสมกัน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการตัดเย็บผ้าไหมไทยโดยไม่ให้ความงดงามดั้งเดิมสูญเสียไป ทุกพื้นที่บนผืนผ้าของชุดยังได้ถ่ายทอดความเป็น “นกยูง” ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่เปรียบให้เห็นว่า นกยูงเป็นสัตว์ที่สะท้อนถึงความสง่างามและความอ่อนโยนในแบบผู้หญิงที่มีความสวยงาม และโดดเด่นในรูปแบบของตัวเอง สังเกตได้จากกระดุม 19 เม็ด ที่ประดับเรียงเป็นแถวบริเวณด้านหลังชุด โดยประทับตราสัญลักษณ์แบรนด์ทุกเม็ดกระดุม หรือชายกระโปรงลากยาวได้ออกแบบเสมือนปีกนกยูงที่กำลังรอรำแพน มีดอกดวงหรือแววมยุราที่เล่นดีเทลด้วยการตัดเย็บผ้าสีฟ้า สีน้ำเงินอยู่ในพื้นที่วงกลม ล้อมรอบด้วยเส้นไหมให้ดูราวขนปีกนกยูง ซึ่งนับเป็นผลงานที่รังสรรค์ทุกรายละเอียดด้วยความประณีตอย่างสูง
ขณะชุดราตรีผ้าไหมไทยที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานให้ เดมี ลีห์เนล ปีเตอร์ส มิสยูนิเวิร์ส 2017 ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 รังสรรค์มาในรูปแบบชุดไทยเกาะอกแบบสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯสไตล์ยุโรป โดยเลือกใช้ผ้าไหมเรียบและผ้าไหมแพรวา ดีไซน์โดยใช้เทคนิค Draping ตกแต่งและจัดวางผ้าบนหุ่นโดยเน้นการจับผ้าให้มีความพลิ้วไหวสวยงาม โดยเป็นกระโปรงทรงกรีกให้ดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยในชุดช่วงบนกับความเป็นสากลในชุดช่วงล่างออกมาได้อย่างลงตัว
ภายในงานบรรดาสาวงามได้ลิ้มรสเมนูอาหารมงคลชั้นเลิศที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบจากโครงการหลวง ท่ามกลางบรรยากาศของความรื่นรมย์ที่คลอเคล้าไปด้วยเสน่ห์ของศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านการแสดงมิ่งมงคล ในชื่อชุด “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” นำเสนอผ่านการแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม
โดยได้แรงบันดาลใจจากบุปผาราชินี 6 ชนิด ซึ่งเป็นดอกไม้ที่งดงาม มีความสำคัญและมีความหมายอันเป็นมงคล อันประกอบไปด้วย ดอกดอนญ่า ควีน สิริกิติ์ (Dona Queen Sirikit) มหาพรหมราชินี (Mahaprom Rachinee) โมกราชินี (Moke Rachinee) ดารารัตน์ (Dararat) สรัสจันทร (Saraschantorn) และบัวควีนสิริกิติ์ (Bua Queen Sirikit) พร้อมด้วยกิจกรรมพิเศษประมูลของที่ระลึกจากสาวงาม ซึ่งคัดเลือกมาประมูลในงานจำนวน 5 ประเทศ ได้แก่ เอกวาดอร์ อินเดีย เลบานอน มองโกเลีย และเนปาล โดยรายได้จะมอบให้แก่ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ทั้งนี้ แฟนนางงามยังสามารถติดตามกิจกรรมครั้งต่อไปของผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 อย่างการประกวดรอบชุดประจำชาติ (National Costume) ที่สวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี ในวันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2561
ขอบคุณ VOGUE Thailand