“หญิงหน่อย” จี้ “บิ๊กตู่” แสดงสปิริตลาออก

2018-12-05 16:50:29

“หญิงหน่อย” จี้ “บิ๊กตู่” แสดงสปิริตลาออก

Advertisement

“คุณหญิงสุดารัตน์” ทำบุญบ้านเด็กพิการซ้ำซ้อนถวายแด่รัชกาลที่ 9 ชูการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ แจงอดีต ส.ส. ขอนแก่นวิวาทเป็นเพียงความน้อยใจ ไม่รุนแรงเหมือนในข่าว ยืนยันพรรคแก้ปัญหาจบแล้ว จี้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงสปิริตลาออก แขวะเป็นเรื่องของจิตสำนึกไม่สามารถจะบอกกันได้ แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม


เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนางลัดดาวัลลิ์​ วงศ์ศรีวงศ์​ โฆษก​พรรค นายอนุสรณ์​ ปั้นทอง​ อดีต​ ส.ส.​ เขต​บางเขน นายจิรายุ​ ห่วงทรัพย์​ อดีต ส.ส​. เขตคลองสามวา นาย​วิตต์ ก้องธรนินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตสะพานสูง นายวัฒนรักษ์​ ​ สุรนาทยุทธ์ ผู้สมัคร ส.ส.​เขตบางซื่อ​ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ Next Gen ทำกิจกรรมเนื่องในวันชาติ 5 ธ.ค. กับเด็กพิการซ้ำซ้อน ที่ รร.บ้านเด็กรามอินทรา - บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่วันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9


คุณหญิงสุดารัตน์ และคณะ ได้เลี้ยงอาหารกลางวัน มอบเครื่องใช้ที่จำเป็น และทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกับเด็กๆ กว่า 30 ชีวิต โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนที่สอนเด็กพิการซ้ำซ้อนมีน้อย อย่างโรงเรียนนี้ได้รับการสนับสนุนที่ไม่เพียงพอ ได้ค่าอาหารเพียง 32,000 บาทต่อปี แต่ยังขาดแคลนกายอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อพัฒนาเด็กให้กลับเข้าไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ


ดังนั้นภาครัฐจึงควรให้การสนับสนุน เพื่อลดภาระครอบครัวและสังคมโดยรวม อีกทั้งยังให้คนเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตรงกับแผนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ นอกจากนี้ภาครัฐยังควรป้องกันจากการควบคุมโรคซิการ์และกำจัดสิ่งที่เป็นพาหะของโรค


ส่วนกรณีที่มีข่าวอดีต ส.ส. และว่าผู้สมัคร ส.ส. ของ จ.ขอนแก่นทะเลาะกันและทำร้ายร่างกายในพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ ปฏิเสธว่าไม่มีความรุนแรงตามข่าวที่ออกมา ข่าวที่ออกเกินเลยความจริง ไม่มีการใช้กำลัง




ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า บุคคลดังกล่าวมีความน้อยใจจริง เพราะยังมีเขตทับซ้อนกัน 10 กว่าเขตทั่วประเทศ เขตก็เพิ่งแบ่งชัดเจนจาก กกต. ซึ่งการแบ่งแบบใหม่สร้างปัญหาให้มีพื้นที่ทับซ้อน แต่ทางพรรคพยายามคัดสรรคนเข้าออกให้พอดี โดยจะใช้เรื่องโพลความนิยมของตัวผู้สมัครมาตัดสิน

คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกระแสที่ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. อาจจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคพลังประชารัฐ ตนเห็นว่าควรจะแสดงสปิริตลาออก เป็นเรื่องของจิตสำนึกไม่สามารถจะบอกกันได้ แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ที่สำคัญโครงการที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ตอนนี้ ต้องทุ่มเงินแผ่นดินและภาษีลงไปจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นชื่อเดียวกันกับพรรคพลังประชารัฐ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ยังจะมาเป็นแคนดิเดตอีก จึงปฏิเสธได้ยากว่ารัฐบาลกับพรรคเป็นเนื้อเดียวกัน


คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมหารือกับ กกต. และ คสช. ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้เนื่องจากเห็นว่าการที่ คสช. ไปตั้งพรรคการเมืองที่ชื่อเดียวกับนโยบายรัฐบาล มีมาตรา44 และมาจัดการเลือกตั้งอีก ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักการ การเข้าร่วมหารือย่อมไม่เกิดประโยชน์อะไร

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อพรรคเพื่อไทย และหลังปลดล็อกทางการเมือง ทุกอย่างภายในพรรคจะชัดเจน อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยต้องการเข้าสู่การเลือกตั้ง และทุกครั้งที่ กกต. เรียกประชุมจะให้ความร่วมมือตลอด