ซีไอเอแจงคดีคาช็อกกีต่อวุฒิฯ ไร้กังขา เจ้าชายซาอุฯเอี่ยวเต็ม

2018-12-05 08:35:18

ซีไอเอแจงคดีคาช็อกกีต่อวุฒิฯ ไร้กังขา เจ้าชายซาอุฯเอี่ยวเต็ม

Advertisement

ส.ว.ต่างมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อนว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายคาช็อกกี หลังซีไอเอ สรุปผลการสอบสวน



ส.ว.พรรครีพับลิกัน แสดงความโกรธกริ้วเมื่อวันอังคาร หลังจากได้รับฟังรายงานสรุปจากกีนา แฮสเปล ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรอง หรือซีไอเอ เกี่ยวกับการสังหารโหดนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวและคอลัมนิสต์ชื่อดังชาวซาอุดีอาระเบีย ของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ พร้อมให้คำมั่นว่าจะดำเนินการโดยเร็วในการเผชิญหน้าทั้งรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย และการตอบโต้ที่ขี้ขลาดของทำเนียบขาว ต่อเหตุการณ์ฆาตกรรมดังกล่าว บรรดาส.ว.ต่างมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อนว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายคาช็อกกี






วุฒิสมาชิกบ็อบ คอร์เกอร์ จากรัฐเทนเนสซี และลินดซีย์ เกรแฮม จากรัฐเซาท์แคโรไลนา ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการเสนอกฎหมายใหม่ที่จะประมาณเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย และความเป็นไปได้ในการจำกัดความเกี่ยวข้องของสหรัฐในสงครามเยเมน ที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย โดยบอกว่า การเดินหน้าผลักดันเรื่องนี้ อิงข้อมูลจากเนื้อหาสรุปของซีไอเอ ที่เชื่อมโยงเจ้าชายซาอุดีอาระเบียว่ามีบทบาทและเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนายคาช็อกกี

เพื่อเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ประณามมกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย นายเกรแฮม กล่าวว่า “แม้อาจไม่มีควันปืน หรือหลักฐานแน่นหนาจนไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ก็มีเลื่อยเป็นหลักฐาน” ซึ่งเขาอ้างถึง “เลื่อยตัดกระดูก” ที่เจ้าหน้าที่สอบสวนบอกว่า ทีมสังหารจากซาอุดีอาระเบีย ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชรวมอยู่ด้วยหนึ่งคน นำมาเพื่อหั่นชำแหละศพของคาช็อกกี หลังถูกฆ่าโหดในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา






เมื่อพูดถึงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด นายเกรแฮม กล่าวว่า นี้เป็นการวางแผนและกระทำโดยกลุ่มคนที่อยู่ภายใต้การบัญชาการของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า เอ็มบีเอส และว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ดเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสังหารนายคาช็อกกี ขณะที่ คอร์เกอร์สำทับเพิ่มด้วยว่า เจ้าชาย “สั่ง, ตรวจสอบการฆ่าคาช็อกกี พ่อลูก 4 หากเขาอยู่ต่อหน้าคณะลูกขุนนะ เขาจะถูกพิพากษาให้มีความผิดฐานฆาตกรรมภายในเวลา 30 นาที

เกรแฮม บอกว่า มีความมั่นใจสูงมากว่า โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องกับการฆ่าโหดนายจามาล คาช็อกกี และระบุว่า ราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย เป็นพวกจอมทำลายล้าง, บ้าคลั่ง และอันตราย ไปแล้ว




ถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวครั้งนี้ เป็นพัฒนาการล่าสุดในความขัดแย้งที่ก่อตัวขึ้นจากกรณีการฆ่านายคาช็อกกีเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เพราะรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ชี้แจงกลับไปกลับมาเกี่ยวกับการหายตัวไปและการฆาตกรรมนายคาช็อกกี ที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในเมืองอิสตันบูล






ประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจหลีกเลี่ยงที่จะประณามรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย โดยอ้างว่าบทบาทของซาอุดีอาระเบียที่มีผลต่อราคาน้ำมันโลก และข้อตกลงซื้ออาวุธกับสหรัฐ มีความสำคัญต่อผลประโยชน์ชาติมากกว่า

ทรัมป์รวมทั้งเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหม และไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ปฏิเสธที่จะผูกมัดเจ้าชายโมฮัมเหม็ดกับการฆาตกรรมครั้งนี้ โดยนายปอมเปโอ บอกว่า ไม่มีหลักฐานโดยตรงในการเชื่อมโยงเจ้าชายกับการตายของนายคาช็อกกี

“บางทีเขาอาจทำ และบางทีก็อาจไม่ได้ทำ” ทรัมป์กล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว เกี่ยวกับตัวเจ้าชายว่ามีส่วนรู้เห็นกับการฆาตกรรมหรือไม่






แต่บรรดาวุฒิสมาชิก กล่าวหลังฟังการสรุปจากซีไอเอ ว่า ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ว่า โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มีส่วนเกี่ยวข้อง และกล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยกับเรื่องนี้ได้ ต้องมีใครบางคนถูกลงโทษ

ส่วนทางเลือกในการลงโทษซาอุดีอาระเบียนั้น ให้สหรัฐถอนตัวเลิกเข้าไปยุ่งในสงครามเยเมน ที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ยกเลิกข้อตกลงซื้อขายอาวุธกับซาอุดีอาระเบีย, คว่ำบาตรเจ้าชายโมฮัมเหม็ด พร้อมด้วยผ่านมติที่ระบุว่า วุฒิสภาสหรัฐพบหลักฐานว่าเขาพัวพันกับการฆาตกรรมนายคาช็อกกี ซึ่งมาตรการเหล่านี้อาจเริ่มต้นได้ทันทีในวันจันทร์นี้