“อัจฉริยะ” พาครอบครัวเหยื่อน้ำกรดขอบคุณ สบส.

2018-12-04 17:15:56

“อัจฉริยะ” พาครอบครัวเหยื่อน้ำกรดขอบคุณ สบส.

Advertisement

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมและน้องเตเต้ลูกสาวเหยื่อถูกสาดน้ำกรดเดินทางเข้าขอบคุณอธิบดีสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมมอบเงินเป็นทุนการศึกษา 1,040,000 บาท

วันที่ 4 ธ.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย ด.ญ.เตชินี โฆษิตานนท์ หรือเตเต้ ลูกสาวของนางสาวช่อลัดดา ทาระวัน ที่ถูกสามีสาดน้ำกรด และเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม 2 แต่ถูก รพ.ปฏิเสธการรักษา และส่งตัวไปยัง รพ.บางมด จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา และครอบครัว เดินทางเข้าขอบคุณอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่ให้ความเป็นธรรมในคดีนี้ ซึ่งทางอธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ติดภารกิจที่สำคัญ จึงมอบหมาย ให้ นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นตัวแทนอธิบดีมารับกระเช้าของขวัญ จาก ด.ญ.เตชินี

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในนามของชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมขอขอบคุณทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่ให้ความเป็นธรรมกับ น.ส.ช่อลัดดาและครอบครัว ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นตัวอย่างของ รพ.เอกชน ในการบังคับใช้กฎหมายของ สบส. ด้วยความยุติธรรมและรวดเร็ว ซึ่งคดีนี้เป็นคดีแรกในประเทศไทย ที่ทาง สบส.ใช้เวลาดำเนินการเพียงไม่นาน ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่าหากจะเปิดโรงพยาบาลต้องมีความพร้อม ทั้งแพทย์และพยาบาล รวมถึงเรื่องการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งตามสิทธิ์ของประกันสังคมหรือบัตรทอง ส่วนตัวเชื่อว่าหากวันเกิดเหตุมีแพทย์ทำการรักษา น.ส.ช่อลัดดาก็จะไม่เสียชีวิต ถือเป็นบทเรียนสำคัญให้กับ รพ.เอกชน




พร้อมกันนี้นายอัจฉริยะได้เป็นตัวแทนมอบเงินบริจาคของประชาชนที่ร่วมกันบริจาคผ่านเพจ Facebook ของชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเข้าบัญชีของเด็กหญิงเตชินี เป็นจำนวนเงิน 1 ล้าน 4 หมื่นบาทเพื่อ เป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กหญิงเตชินี โดยเงินจำนวนนี้มี น.ส.นงลักษณ์ สนิทเชื้ออายุ 45 ปีซึ่งเป็นคุณป้าของเด็กหญิงเตชินีจะเป็นผู้ดูแล

ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการในคดีของนางสาวช่อลัดดา ทาง สทศ. ได้มีการสั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทางสโมสรได้ให้ระยะเวลาในการดำเนินการและจะคอยติดตามผลอีกครั้ง ส่วนเรื่องของคดีความก่อนหน้านี้ทาง สบส. ให้นิติกรดำเนินการแจ้งความตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว หลังจากนี้ผู้ถูกกล่าวหาต้องไปให้การกับทางพนักงานสอบสวน



นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ภารกิจหลักของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ คือการคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพให้ได้รับการบริการที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน เหมาะสมกับประชาชนที่รับบริการ โดยทางกรมจะดูแลเรื่องกฎหมายของสถานประกอบการ ภายใต้ พรบ.สถานพยาบาล ต้องขอบคุณ ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการเป็นหูเป็นตา ในการให้ข้อมูลกับทางกรม ซึ่งทางสบส. จะเข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการเฝ้าระวังในสถานพยาบาล ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในเชิงรุกอีกทางหนึ่ง