“ธนาธร” เปิดไอเดียเปลี่ยนประเทศ แย้มนโยบายพลิกโฉมภาคเกษตร
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยาย “อนาคตการเมืองไทยและเศรษฐกิจไทย” ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.แพร่ ท่ามกลางนักศึกษา นักเรียน และผู้สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายเป็นจำนวนมาก
นายธนาธรได้กล่าวถึงที่ไปที่มาของสภาพการเมืองและเศรษฐกิจไทย ที่เต็มไปด้วยการผูกขาดทั้งด้านอำนาจการเมืองและการผูกขาดทางเศรษฐกิจ ที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศ และเป็นปัญหาที่พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าเป็นอุปสรรคฉุดรั้งประเทศ ที่ต้องปลดล็อคให้ได้
นายธนาธร เปิดเผยถึงแผนบางส่วนที่จะนำมาเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจายโอกาสในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยด้านการคมนาคมขนส่ง ผ่านการปฏิรูประบบรางทั้งประเทศ
“ผมอยากจะสร้างรถไฟในประเทศให้เป็นระบบการคมนาคมหลัก ผมคิดว่ารูปแบบการเดินทางคมนาคมโดยการใช้ถนนเป็นหลักมันหมดยุคไปแล้ว หนึ่งมันทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม มันสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์เยอะมาก สองมันเปลืองพื้นที่เยอะมาก สามมันส่งเสริมความไม่เท่าเทียม เพราะการที่คุณต้องใช้รถยนต์ แต่บางคนรายได้ไม่พอซื้อรถเป็นของตัวเอง ต้องไปกู้ยืมเป็นหนี้กัน แต่ถ้าเราพัฒนาระบบรางให้เข้าถึงทั้งประเทศได้ นั่นคือโอกาสทางรายได้สำหรับทุกคน”นายธนาธร กล่าว
ส่วนนโยบายทางด้านเกษตรนั้น นายธนาธร ระบุว่าภาคการเกษตรในประเทศไทย แม้จะมีการจ้างงานมากที่สุดถึง 32% ของประชากรทั้งประเทศ แต่ได้ผลผลิตกลับมาเพียง 6% ของผลผลิตในประเทศ เนื่องจากขาดนวัตกรรมที่จะนำมาใช้ในการผลิต และเน้นการใช้แรงงานคนแบบดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนการใช้ทรัพยากรที่มากเพื่อแลกกับผลผลิตที่น้อย
นายธนาธร เสนอว่า ภาคการเกษตรของประเทศไทย ควรต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ และกระจายไปให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อลดขั้นตอนการใช้แรงงานในกระบวนการแปรรูป
ทั้งนี้ระหว่างการบรรยาย นายธนาธรได้ฉายภาพชุดเครื่องจักรและโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรที่ฝ่ายนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ได้เคยทำการศึกษามาแล้ว และเตรียมเสนอเป็นนโยบายหลักในการพลิกโฉมภาคเกษตรของประเทศไทย เครื่องจักรตัวนี้ไม่มีเทคโนโลยีที่ประเทศไทยผลิตเองไม่ได้เลย ถ้าอยากจะให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 16,000 บาทต่อตัน ไม่ต้องเอาเงินไปแจกเขา เอาเครื่องจักรตัวนี้ไปให้เขาตำบลละ 1 เครื่อง
ทั้งนี้ หลังการบรรยาย นายธนาธรและทีมงานพรรคอนาคตใหม่ยังได้ร่วมรับประทานอาหารและแลกเปลี่ยนความเห็นกับนักศึกษาอย่างเป็นกันเอง โดยมีนักศึกษาจำนวนมากที่แสดงความสนใจในพรรคและอยากร่วมงานกับอนาคตใหม่
