ตำรวจคุมตัวหนุ่ม 29 ปีและ 37 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิงออทิสติก วัย 13 ปี โดยหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นน้าของเด็กด้วย
วันที่ 28 พ.ย. ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ นำตัว นายทวีพงษ์ พูนสังข์ หรือ ติ๊ก อายุ 37 ปี ชาวบ้านน้ำใส อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงวัย 13 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก เมื่อกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ ด.ญ.รายนี้ ปั่นจักรยานในหมู่บ้าน แล้วจับตัวลากเข้าไปข่มขื่นในบ้านของตัวเองจนสำเร็จความใคร่ และได้ข่มขืนมาอีกหลายครั้ง
ส่วนนายสุวิน นุชสาย หรือ น๊อต อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นน้าของเด็ก ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมข่มขืนด้วย ตำรวจจึงไม่นำไปทำแผน แต่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน เพราะคำให้การของเด็กระบุชัดเจนว่าร่วมก่อเหตุด้วย
พี่สาวเด็กของเด็กหญิง เล่าว่า ครอบครัวอยู่ด้วยกัน 5 คน ซึ่งผู้ต้องหามีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดมาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ส่วนตนเองต้องย้ายออกจากบ้านหลังนี้ ไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านเดียวกัน เพราะทนพฤติกรรมของนายสุวิน ไม่ไหว เพราะชอบโวยวาย ขอเงินถ้าไม่ได้ก็ดุด่าทำร้ายคนในบ้าน
พี่สาวเล่าต่อว่า เห็นน้องบ่นเวียนหัว ไม่ค่อยสบาย จึงสอบถามว่า “เคยเสียตัวไหม” น้องเอ ก็ตอบว่าเคย ก่อนจะเค้นถามว่าใครเป็นคนทำ น้องจึงเล่าว่า ขณะปั่นจักรยานไปเอารองเท้าบ้านที่เกิดเหตุ พบนายสุวิน หรือน็อต อยู่ในบ้าน จู่ๆนายน็อต ก็ลากเข้าไปข่มขืนทันที
และไม่กี่วัน ก็มีนายทวีพงษ์ คนในหมู่บ้าน ลากไปข่มขืนภายในบ้านเช่นเดียวกัน จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยนายน็อต ยังไม่สำนึกผิด แถมขู่ด้วยว่าถ้าพ้นโทษออกมา จะฆ่าทั้งครอบครัว ตอนนี้กลัวกันมาก ขอให้กฎหมายจัดการกับคนผิดอย่างเต็มที่