ฝ่ายหนุนเพศเดียวกันแต่งงานถูกกฎหมายในไต้หวัน แพ้ประชามติอย่างน่าผิดหวังเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ ไช่ อิง เหวิน ลาออกจากหัวหน้าพรรครัฐบาล หลังแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างหมดสภาพ
ไต้หวันลงมติปฏิเสธการแต่งงานของเพศเดียวกัน ถือว่าทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของดินแดนเกาะแห่งนี้พอสมควรในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกสิทธิความเท่าเทียมในเอเชีย โดยผลการแสดงประชามติ ถูกจัดขึ้นแม้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำพิพากษาไปในเดือนมีนาคม 2560 สนับสนุนการแต่งงานของเพศเดียวกันได้ ซึ่งศาลยังได้ให้เวลารัฐสภา 2 ปี เพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย หรือผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า การลงมติเมื่อวันเสาร์ จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อกฎหมาย
ศาลรัฐธรรมนูญ ประกาศว่า คู่สามี-ภรรยาเพศเดียวกัน มีสิทธิแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งคำพิพากษาเช่นนี้เป็นครั้งแรกในเอเชีย แต่เมื่อต้นปีนี้ เจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งของไต้หวัน อนุมัติให้จัดการแสดงประชามติที่มีการโต้เถียงและสร้างความแตกแยกกันอย่างหนักจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมและกลุ่มสิทธิมนุษยชน
สำนักงานจัดการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้ประกาศผลการแสดงประชามติอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ ซึ่งมีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งกว่า 6 ล้านคน ลงคะแนนคัดค้านความเท่าเทียมในการแต่งงาน ถือว่าเป็นคะแนนที่มากกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเท่ากับฝ่ายคัดค้านชนะไปโดยปริยาย เป็นความพ่ายแพ้ของนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่รณรงค์ให้มีความเท่าเทียมกันทางเพศ อนุญาตให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้
กลุ่มพันธมิตรเพื่อความสุขของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่คัดค้านการแต่งงานของเพศเดียวกัน ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า นี้เป็นชัยชนะสำหรับทุกคน ที่สนับสนุนคุณค่าของครอบครัว และการศึกษาเพื่อคนรุ่นต่อไป ขณะที่ กลุ่มแนวร่วมความเท่าเทียมกันในการแต่งงานในไต้หวัน ระบุในแถลงการณ์เช่นกันว่า การแสดงประชามติครั้งนี้ ผิดกฎหมาย และขัดต่อรัฐธรรมนูญ และสร้างความแตกแยก พร้อมทั้งทำลายสังคมด้วย ผลประชามติครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจผิดจากข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนความจริงจากกลุ่มที่ต่อต้านเกย์
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไต้หวันแถลงว่า คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่ถูกท้าทายจากผลของการแสดงประชามติครั้งนี้ แต่หน่วยงานของรัฐบาลคาดว่าจะออกกฎหมายพิเศษสำหรับการอยู่กินเป็นสามี-ภรรยาของเพศเดียวกัน หลังการแสดงประชามติเมื่อวันเสาร์
ขณะเดียวกัน นางไช่ อิง-เหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ก็ยอมลาออกจากหัวหน้าพรรครัฐบาลไต้หวัน หลังจากแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน สื่อไต้หวันรายงานว่า พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือดีพีพี ของเธอ ที่สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชจากจีน แพ้การเลือกตั้งกว่าครึ่งหนึ่งของ 13 เมืองที่เคยชนะในปี 2557