ตำรวจนำตัวสามีโหดสาดน้ำกรดใส่ภรรยาจนเสียชีวิตไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาระบุแค้นผู้ตายปันใจ แค่ต้องการให้เสียโฉม ไม่ได้ต้องการฆ่าให้ตาย
จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน อายุ 38 ปี ซึ่งถูกนายคำตัน สิงนาท อายุ 50 ปี สามี สาดน้ำกรดใส่ โดยมีสาเหตุจากความหึงหวง จนลูกสาววัย 12 ปี นำตัว น.ส.ช่อลัดดา ส่ง รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง พร้อมอ้างว่า รพ.ปฏิเสธรักษา และให้ไปรักษา รพ.ที่มีประกันสังคม จน น.ส.ช่อลัดดา เสียชีวิต เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ส่วนนายคำตัน สามี ที่เป็นผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป และถูกจับกุมตัวได้แล้ว เรื่องนี้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยพาครอบครัวของผู้ตายบุกไป รพ.เอกชน เพื่อเรียกร้องให้รับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ตำรวจ สน.ท่าข้าม คุมตัว นายคำตัน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้องพักห้องเช่า ห้องที่ 6 ชั้น 2 เลขที่ 122/6 ซอยบางขุนเทียนชายทะเล 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.จุดเกิดเหตุ ก่อนจะนำไปชี้จุดที่นำของกลางไปทิ้ง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ทนเจ็บแค้นใจมาเป็นเวลานาน เพราะระแคะระคายว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายปันใจ ไปคบชายอื่นอีก 2 คน เป็นคนขับรถรับจ้างซูบารุ ย่านบางแค 1 คน และพนักงานในห้างเดอะมอลล์บางแค ที่ผู้ตายทำงานอยู่ อีก 1 คน ทำให้ในระยะหลังๆ เกิดการทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนสุดท้ายลงมือก่อเหตุขึ้น ทั้งนี้แค่ต้องการให้เสียโฉม ไม่ได้ต้องการฆ่าให้ตาย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น เนื่องจากผู้ต้องหานำน้ำกรดเข้มข้นสูงและมีปริมาณมาก มาสาดใส่ผู้อื่น ซึ่งเป็นภรรยา จึงเป็นเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จึงมีความผิดฐานฆ่าคนอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 ( 4) ประกอบมามาตรา 80
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) ระบุว่า จากนี้จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำพิ่มเติมอีก ส่วนเรื่องของ รพ.เอกชน ที่ปฎิเสธการรักษาก็ต้องตรวจสอบ และดำเนินทางกฎหมายต่อไป