โฆษก กห. เผย เดือน ต.ค.ยึดยาเสพติดกว่า 1 หมื่นล้านบาท จับกุมผู้ต้องหา 4 หมื่นราย “บิ๊กป้อม” สั่งกองทัพสกัดขบวนการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนให้ได้
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับทราบ รายงานความคืบหน้า ผลการปราบปรามยาเสพติด เดือน ต.ค. 2561 โดยภาพรวมยาเสพติดในแหล่งพักคอยของประเทศเพื่อนบ้าน ยังมีปริมาณมากและรอทยอยลำเลียงเข้าไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติและช่องทางผ่านแดนทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังเปิดปฏิบัติการกวาดล้าง จับกุมยาเสพติดครั้งใหญ่ทั่วประเทศอย่างจริงจังตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ยังคงพบการลำเลียงผ่านเส้นทางสายหลักในรูปแบบต่างๆและกระจายเข้าชุมชนเมืองอย่างต่อเนื่อง การใช้ยาเสพติดมีมากในกลุ่มเยาวชนและผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นปัญหาของอาชญากรรมลูกโซ่ตามมา
พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า ผลการจับกุมและยึดยาเสพติด เดือน ต.ค. จับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 40,000 ราย ยึดยาเสพติดได้ครั้งละมากๆกว่า 1 ล้านเม็ด เป็นยาบ้ากว่า 81 ล้านเม็ด ไอซ์ 2,022 กก. รวมทั้งเฮโรอีน กัญชา โคเคและฝิ่นจำนวนมาก รวมมูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท นอกจากนั้น ยังอายัดทรัพย์สินรอการตรวจสอบ กว่า 1,700 ล้านบาท ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกคน ที่ปฏิบัติงานหนักร่วมกันต่อเนื่องมา มีผลการจับกุมยาเสพติดและผู้เกี่ยวข้องได้มากขึ้นตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังของหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ พร้อมทั้งกำชับเป็นนโยบายว่า การแก้ปัญหายาเสพติดในภาพรวม รัฐไม่สามารถดำเนินการเพียงลำพัง จำเป็นต้องดึงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม ร่วมสร้างการตระหนักรู้และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่างต่อว่า พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำให้กองทัพ พยายามติดตามสกัดกั้นและหยุดขบวนการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนให้ได้ และขอให้ฝ่ายปกครองระดับจังหวัด ลงมาถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพิ่มบทบาทความรับผิดชอบ และเสริมการทำงานร่วมกับสถานีตำรวจพื้นที่มากขึ้น ทั้งการป้องกันและปราบปรามในพื้นที่ชั้นใน ควบคู่กับการเสริมความเข้มแข็งชุมชน ร่วมปฏิบัติการปูพรมเอ็กซ์เรย์พื้นที่ชุมชนเมืองทั่วประเทศ ขับเคลื่อนแก้ปัญหาและทำลายเครือข่ายไปพร้อมกัน โดยเฉพาะในสถานศึกษาและโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งนี้ขอให้สถานีตำรวจพื้นที่ ต้องตอบสนองข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากประชาชนทันที และหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ยืนยันไม่เอาไว้