“โรคภูมิแพ้ตา“ อาการเรื้อรังที่ไม่ควรละเลย

2018-11-10 00:05:17

“โรคภูมิแพ้ตา“ อาการเรื้อรังที่ไม่ควรละเลย

Advertisement

“ภูมิแพ้” เกิดจากการที่ร่างกายตอบสนองไวผิดปกติต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย หรืออาจเรียกว่าสารก่อภูมิแพ้ สำหรับโรคภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา เป็นโรคตาที่พบได้บ่อยที่สุดโรคหนึ่ง คือพบร้อยละ 10-20 ของคนปกติทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคนี้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ ๆ หรือเขตชุมชน ที่มีคนอยู่อาศัยอยู่หนาแน่น ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคิดว่าโรคภูมิแพ้ที่ตาเป็นโรคที่ไม่อันตราย เพียงแค่ก่อให้เกิดความรำคาญ แต่ในรายที่เป็นเรื้อรังหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน อาจทำให้เกิดความพิการของสายตาได้

โรคภูมิแพ้ตา เกิดจากจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ที่พบบ่อย ได้แก่ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ เชื้อรา เป็นต้น นอกจากนี้คอนแทคเลนส์ ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่น ๆ

โรคภูมิแพ้ตา อาจแบ่งตามลักษณะของโรค ได้ดังนี้

กลุ่มที่มีอาการแพ้ไม่รุนแรง คือ เยื่อบุตาอักเสบเป็นหลัก ยังไม่มีผลกระทบต่อกระจกตา ซึ่งอาจเกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ได้แก่ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือเป็นตามฤดูกาล หรือเกิดจากการใช้คอนแทคเลนส์ โดยอาจใช้ไม่ถูกวิธีหรือใช้งานไม่เหมาะสม ทำให้มีอาการภูมิแพ้แทรกซ้อนได้

กลุ่มที่มีอาการแพ้ค่อนข้างรุนแรง คือ กระจกตามีการอักเสบร่วมด้วย ผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บเคืองตา การมองเห็นถูกรบกวน ไม่ใช่แค่คันตาหรือตาแดงเท่านั้น

โรคภูมิแพ้ตา เกิดบริเวณที่เยื่อบุตาขาว ซึ่งพบได้มากที่สุด ส่วนภูมิแพ้ที่มีผลต่อกระจกตา พบได้รองลงมา และเมื่ออาการเกิดที่กระจกตา จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ทำให้การมองเห็นลดลงหรือมองเห็นไม่ชัดได้

การเกิดภูมิแพ้ที่กระจกตา จนถึงขั้นเป็นแผลเรื้อรังที่กระจกตา อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน รักษาได้ยาก และอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ นอกจากนี้แม้เมื่อแผลหายแล้ว อาจกลายเป็นแผลเป็นที่กระจกตา ส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาวได้ ในทางกลับกันหากแผลไม่ปิด ส่งผลให้กระจกตาทะลุ จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไข อาจส่งผลให้การมองเห็นสูญเสียไปหรือไม่ดีเหมือนเดิม

ปัจจัยเสี่ยงโรคภูมิแพ้ตา ปัจจัยภายในเกิดจากกรรมพันธุ์ ปัจจัยภายนอกเกิดจากตัวกระตุ้นภูมิแพ้ อาทิ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ใบไม้ คอนแทคเลนส์ น้ำยาคอนแทคเลนส์ เป็นต้น

ภูมิแพ้ตาสามารถเกิดร่วมกับภูมิแพ้ที่ส่วนอื่นของร่างกายได้ ในคนที่เป็นภูมิแพ้ อาจมีอาการแสดงออกได้หลายแห่ง ตั้งแต่ที่ตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอจามเรื้อรัง น้ำมูกไหล ผิวหนังอักเสบ หรือคันที่ผิวหนังร่วมด้วย ผู้ป่วยบางรายมีอาการเพียงบางตำแหน่งของร่างกาย ในขณะที่บางรายเป็นทุกส่วนร่วมกัน

หากเป็นภูมิแพ้ตาแล้วขยี้ตา เพราะอาการคัน และถ้าหากมือไม่สะอาด อาจนำเชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาได้ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน เช่น ตากุ้งยิง เป็นต้น บางรายหากขยี้แรงอาจมีผลกระทบต่อกระจกตา ทำให้กระจกตา ผิดรูปหรือเสียรูปไปจากเดิม นำไปสู่ปัญหาสายตาตามมา นอกจากนี้ในบางรายที่ขยี้แรง ผิวหนังรอบดวงตาอาจเปลี่ยนสี หรือมีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้นได้


ใช้ยาหยอดตาหรือใช้น้ำยาคอนแทคเลนส์ประจำทำให้เกิดภูมิแพ้ตาหรือไม่

• น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ คล้ายกับการแพ้ยาบางประเภท

• ยาหยอดตา สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน ขึ้นกับชนิดของยานั้นๆ

แม้โอกาสการเกิดภูมิแพ้จากยาอาจไม่สูง แต่หากต้องใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรปรึกษาจักษุแพทย์ร่วมด้วย เนื่องจากยาบางชนิดสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ใช่ภูมิแพ้ร่วมด้วยได้

เครื่องสำอางทำให้เกิดภูมิแพ้ตาได้หรือไม่

เครื่องสำอางทำให้เกิดภูมิแพ้ตาได้ หากพบว่าแพ้ต้องหลีกเลี่ยงการใช้งาน และถ้าหากเจอเครื่องสำอางอื่นที่มีส่วนผสมคล้ายคลึงกัน ควรหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน

ภูมิแพ้ตา รักษาได้หรือไม่ 

สามารถรักษาได้ แต่อาจไม่หายขาด โดยควรหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆที่ทำให้เกิดอาการแพ้ และรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้คันเพื่อรักษาอาการคันที่ดวงตา หรือให้ยาแก้อักเสบเพื่อลดอาการตาแดง ในบางรายมีอาการตามฤดูกาล แพทย์อาจให้ยาป้องกันไว้ก่อน เรียกว่ายาป้องกันภูมิแพ้ หากผ่านฤดูนั้นไป สามารถหยุดใช้ยาได้ แล้วควรพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอื่นๆถ้ามี

ป้องกันโรคภูมิแพ้ตา

• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีความแข็งแรงและมีความสมดุล

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก

รศ. พญ.เกวลิน เลขานนท์ สาขาวิชากระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา

ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล