รัฐบาลสหรัฐ ตัดตอนผู้อพยพ ประกาศออกกฎหมายใหม่ กำหนดผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายทางพรมแดนที่ติดกับเม็กซิโก หมดสิทธิขอลี้ภัย
รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หวังสกัดผู้อพยพหลายพันคนที่กำลังมุ่งหน้าสู่สหรัฐ ออกกฎหมายใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี จำกัดสิทธิการขอลี้ภัยของผู้อพยพ โดยจะห้ามผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมาย ทางตอนใต้ของสหรัฐ ข้อลี้ภัยอย่างเด็ดขาด ขณะที่ กลุ่มผู้สนับสนุนผู้อพยพ ประณามการเคลื่อนไหวดังกล่าว บอกว่าเป็นการละเมิดกฎหมายของสหรัฐที่มีอยู่ ซึ่งกำหนดอนุญาตให้ประชาชนที่หลบหนีจากการเข่นฆ่าและความรุนแรงในประเทศบ้านเกิด ขอลี้ภัยได้ โดยไม่เกี่ยวว่าพวกเขาจะเข้าเมืองผิดกฎหมายหรือไม่ก็ตาม
กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งออกเมื่อวันพฤหัสบดีโดยกระทรวงยุติธรรมและความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ จะห้ามการขอลี้ภัยสำหรับคนที่ละเมิดคำสั่งห้ามเข้าประเทศของประธานาธิบดี ซึ่งในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งระบุว่า ประธานาธิบดีสามารถหยุดยั้งการอพยพได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ เมื่อมาตรการนี้มีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว กลุ่มผู้อพยพเข้าเมืองทางพรมแดนภาคใต้ของสหรัฐ จะไม่มีสิทธิขอลี้ภัยอีก
ทั้งนี้ ประเด็นการอพยพเข้าเมือง ถือเป็นประเด็นสำคัญในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากลางเทอมของทรัมป์ ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทรัมป์โจมตีคาราวานผู้อพยพจากประเทศอเมริกากลางหลายพันคนที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าขึ้นเหนือผ่านเม็กซิโก ถึงขนาดทรัมป์ต้องสั่งให้ทหารตรึงกำลังบริเวณพรมแดน และประกาศว่า ผู้อพยพเป็นผู้รุกราน
ในแถลงการณ์ร่วมของกระทรวงยุติธรรมและความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ระบุว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจในการระงับการเข้าประเทศของชาวต่างด้าวทั้งหมด และสามารถออกคำสั่งห้ามด้วยความเหมาะสม หากพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้อพยพเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของสหรัฐ ภายใต้กฎหมายคนเข้าเมืองและกฎหมายสัญชาติ
อนึ่ง หากประธานาธิบดีประกาศการระงับชั่วคราว หรือห้ามเข้าประเทศผ่านพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโกแล้ว ผู้ที่เข้าสหรัฐผิดกฎหมาย จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขอลี้ภัยในสหรัฐอีกต่อไป
