ปากีสถานปล่อยตัวหญิงชาวคริสต์ หลบที่ปลอดภัย

2018-11-08 13:00:01

ปากีสถานปล่อยตัวหญิงชาวคริสต์ หลบที่ปลอดภัย

Advertisement

ปากีสถานปล่อยตัวสตรีชาวคริสเตียนที่ถูกกล่าวหาหมิ่นศาสนาอิสลาม แต่ศาลสูงยกฟ้องโทษประหารชีวิต จนทำให้กลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนาไม่พอใจ ก่อการประท้วง

อาเซีย บีบี หญิงชาวคริสเตียนปากีสถาน ซึ่งศาลสูงปากีสถานเพิ่งยกฟ้องคดีที่เธอถูกกล่าวหาว่า “หมิ่นศาสนาอิสลาม” จนติดคุกนาน 8 ปีระหว่างรอรับโทษ ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้วในวันพฤหัสบดี ซึ่งบางสื่อรายงานว่า อาเซีย บีบี ถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินทันที แต่ไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่ไหน คำพิพากษาของศาลสูงปากีสถานยกฟ้องคดีของเธอ จุดชนวนให้เกิดการประท้วงจากกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา และรัฐบาลปากีสถาน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน แถลงว่า รัฐบาลจะห้ามไม่ให้เธอเดินทางออกนอกประเทศ ขณะที่ สามีของเธอ กล่าวว่า ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย และร้องขอลี้ภัย

ซาอิฟ มูลุค ทนายความของเธอ กล่าวว่า อาเซีย บีบี คุณแม่ลูก 5 ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมืองมุลตานแล้ว




ทั้งนี้ อาเซีย บีบี หรืออีกชื่อหนึ่งว่า อาเซีย โนรีน ถูกพิพากษาลงโทษในปี 2553 ในข้อหาหมิ่นประมาทพระศาสดามูฮัมหมัด ระหว่างการทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้าน

หลายประเทศ เสนอให้เธอลี้ภัย แต่รัฐบาลปากีสถาน แถลงว่า จะเริ่มกระบวนการทางกฎหมายเพื่อห้ามเธอเดินทางออกนอกประเทศ หลังจากเห็นด้วยกับมาตรการนี้ เพื่อยุติเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงของกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา ซึ่งผู้ประท้วงจำนวนมาก เป็นพวกมีความคิดสุดโต่ง ที่สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นศาสนาอย่างเข้มข้น และเรียกร้องให้นำตัวอาเซีย บีบี มาแขวนคอ



ผู้นำหัวรุนแรงคนหนึ่ง กล่าวว่า แม้แต่ผู้พิพากษาศาลสูงทั้ง 3 คน “ก็ควรถูกสังหารด้วย”

โฆษกของพรรคเตห์รีค-อี-ลาบาอิค หรือทีแอลพี กลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา แกนนำการประท้วง กล่าวว่า การปล่อยตัวอาเซีย บีบี ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงของพวกเขาที่ทำไว้กับรัฐบาล เอจัซ แอชราฟี โฆษกของทีแอลพี กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “รัฐบาลแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีความซื่อสัตย์” ข้อตกลงที่พวกเขาทำไว้กับรัฐบาล ยังรวมถึง รัฐบาลไม่ห้ามให้ยื่นคำร้องคัดค้านคำพิพากษาของศาลสูง เพื่อให้ทบทวนคำตัดสินยกฟ้องอาเซีย บีบี และให้ปฏิบัติตามกฎหมายอิสลาม

ด้านนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในปากีสถาน ออกมาชุมนุมกันเมื่อวันพุธ เพื่อสนับสนุนคำพิพากษายกฟ้องอาเซีย บีบี และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีข่านบังคับใช้กฎหมาย โดยที่สโมสรนักข่าวเมืองการาจี นักเคลื่อนด้านสิทธิมนุษยชน, นักกฎหมาย และสมาชิกของสังคมพลเรือน เรียกร้องให้คนในชาติสนับสนุนคำตัดสินของศาลสูง และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีข่าน “สร้างความปรองดอง” และอย่า “ขลาดกลัว”