ต้องบินไปทำงานที่ประเทศโมร็อกโกแต่กระเป๋าเดินทางของสาว "ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล" กลับหาไม่เจอจนกลายเป็นเรื่องราวชวนปวดหัว ล่าสุด เจอสาวปรางเลยถามถึงเรื่องนี้และอัพเดตสถานะเรื่องหัวใจได้ความว่า
กระเป๋าหายตอนไปทำงานที่โมร็อกโกค่ะ แบบว่าพอจะกลับแล้วเราก็ยังไม่ได้คืนอีก แต่ว่าเพิ่งได้หลังจากผ่านไป 10 วันกว่าๆ พอไปถึงสนามบินเราก็อ้าวกระเป๋าหาย เราก็พยายามติดต่อแต่ว่ามันเป็นปัญหาทางด้านการสื่อสารกัน คือหาไม่เจอเลยค่ะ ว่ามันไปอยู่ที่ไหน ทาง AIR FRANCE บอกว่าอยู่ที่ปารีส แต่ก็มีทั้งบอกว่าส่งมาแล้วที่โมร็อกโก ก็บอกว่าไม่มี มันก็เป็นเรื่องเครียดนะคะ เพราะว่าจริงๆ แล้วไปทำงานเราก็อยากให้มันออกมาดูสวยที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะมีเสื้อผ้าใหม่ แต่ว่ามันก็มีอุปกรณ์แต่งตัวที่เราเตรียมไปที่เราตั้งใจว่าจะมีลุคต่างๆ ที่เราไปนำเสนอ ก็เครียดนะคะ
ตอนนั้นเราโมโหไหม ?
จริงๆ ปรางใจเย็นทุกวันเลยนะ อย่างรูปที่เห็นในไอจีที่ร่าเริงคือดูไม่มีใครรู้เลยว่ากระเป๋าปรางหาย เพราะว่าเราคิดว่าเดี๋ยวมันก็ได้คืนไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่ว่าผ่านไป 4-5 วันแล้วคือยังไม่เจอ แล้วที่ไปคือนั่งชั้นธุรกิจไป รู้สึกว่ามันไม่น่าจะหาย แล้วข้างในมีของสำคัญเยอะ มันอาจไม่ได้มีมูลค่าแพงมาก แต่ว่ามันก็เป็นของสำคัญ แต่ว่าก็ได้คืนครบถ้วนค่ะ ใช้เวลาทั้งหมด 10 กว่าวัน ตอนแรกถอดใจแล้ว เพราะเขาบอกว่าหาอย่างไรก็หาไม่เจอ แล้วอยู่ดีๆ ก็เจอ
เหตุการณ์นี้ทำให้เราขาดความเชื่อถือในสายการบินนี้ไหม ?
ก็แอบกลัวนิดนึง แต่ว่าเขาก็ทำเต็มที่ของเขาที่สุดนะคะ จริงๆ ก็ไม่อยากให้เป็นปัญหา แต่ว่าพอมีปัญหาแล้วเราก็ฟังปัญหาจากเขาก็เข้าใจ ทางเราที่ไปก็ไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวเฉยๆ ถ้าเราไปเที่ยวเฉยๆ ก็คงไม่ได้ซีเรียสมาก แต่ว่าพอเราไปทำงานมันก็เป็นเรื่องของหน้าที่การงาน เป็นหน้าเป็นตาของเราด้วย ก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาอะไร ไม่อยากให้เกิดกับใคร ตอนนั้นคุยกับที่ไทยไม่ได้ด้วย เราก็คุยกับที่โมร็อกโกและฝรั่งเศสอย่างเดียว เราไม่สามารถคุยที่ไทยได้ เราก็คิดว่ายากไปอีก ก็เลยต้องให้ที่ฝรั่งเศสช่วย ตอนแรกก็อยากเรียกชดเชยค่าเสียหาย มันก็สามารถทำได้ เรียกร้องค่าเสียหายได้นะ เพราะว่าเราก็ต้องไปหาซื้ออะไรใหม่จากที่นั่น แต่ว่าก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะพอได้ของก็โอเคแล้ว เพราะว่ามันเลยจุดนั้นมาแล้ว แค่ได้ของที่เรารักกลับมาก็โอเคแล้วค่ะ
โต้งบอกว่าไม่อยากให้เราเล่นเอ็มวีด้วยเพราะกลัวเลิกกัน ?
ก็ตามนั้นแหละค่ะ แต่เขาก็ไม่เคยพูดกับปรางนะ
เราเชื่อเรื่องนี้ไหม?
ปรางเฉยๆ ค่ะ ก็ดี อย่าเอาปรางไปเล่นเลย (หัวเราะ) ปรางขอเป็นคนซัพพอร์ตเขาดีกว่า อย่างเรื่องเอ็มวีเขาก็ปรึกษาว่ายังไงดี เอาคนนี้มาเล่นดีไหม หรือแนวทางเป็นยังไงดีกับเพลงนี้ ล่าสุดก็เป็น "ดิว อริสรา" เขาเป็นเพื่อนกันด้วย เขาก็มาปรึกษาว่าดีไหม เราก็บอกว่าดี เข้ากับเพลง
จริงๆ เราอยากเล่นไหม ?
ถ้าเราไปเล่นคงไม่ดีขนาดนั้น ก็คงเขินๆ ไปเล่นเพลงคนอื่นดีกว่า (หัวเราะ) ก็เป็นคู่คิดกันมากขึ้นค่ะ อย่างที่ปรางบอกพอมันโตขึ้น ก็คุยปรึกษากันเรื่องงาน ควรจะออกมาเป็นยังไง ตัดต่ออย่างนี้ดีไหมมากกว่า ไม่ได้มานั่งคุยกุ๊กกิ๊ก
ที่เขาโทร.มาขอเป็นแฟนล่ะ?
เขาก็เล่าความจริงเกิน คือปรางก็ตอบ อือ แต่งหน้าอยู่แค่นี้นะ แล้วคนอยู่เยอะมากตรงนั้นแล้วอยู่ดีๆ เขาก็โทร.มา ไม่รู้เหมือนกันเขาชอบทำอะไรแบบไม่ปรึกษาหนู ปรางก็ตกใจ อือๆ คนก็อยู่เยอะ ก็ไม่กล้าพูดอะไร นอกจากอือๆ เดี๋ยวคุยกันนะ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกัน ก็กลายเป็นว่าอย่างที่เขาบอกรวบรัดตัดตอนเลย ก็เนียนเลย (หัวเราะ)
สถานะตอนนี้ ?
ก็อย่างที่บอกปรางกับเขาในเรื่องการกระทำก็อาจจะเกินคำนั้นไปแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ที่เขาจะมาขอเราเป็นแฟน แต่การที่ปรางจะมานั่งบอกว่าวันนี้ค่ะ เราเป็นแฟนกันแล้ว ไม่ได้อยู่ในมูดนั้นแล้ว และมันก็รอบสองแล้ว มันมีอะไรหลายอย่างที่ไม่ใช่แค่ว่าเขาทำอันนี้ให้แล้วเราไปเป็นแฟนกับเขา มันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์กันมากกว่า
เราอยากแต่งงานไหม ?
จริงๆ ผู้หญิงทุกคนก็อยากแต่งงานและอยากเจอคนที่ใช่ที่สุด ก็ดีค่ะ ปรางชอบไปงานแต่งงานอยู่แล้ว อินค่ะ แต่คงยังค่ะ รอให้หน้าที่การงานเขาดีก่อน เขาอยากทำงาน ตอนนี้เขาก็ยังไม่คิดหรอกค่ะ
โต้งบอกว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ ?
ก็ดีค่ะ การที่ปรางกลับมาให้โอกาสเขา มันก็เหมือนเราก้าวไปอีกขานึงแล้ว แต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องของอนาคต เราจะประคองมันไปได้มากขนาดไหน
เรามั่นใจในตัวเขาไหม ?
ก็มั่นใจในระดับนึงถึงกลับมาคบ เรื่องปาร์ตี้ของเขาก็น้อยลงค่ะ ก็ดีขึ้นค่ะ เขาก็บอกพี่ๆ นักข่าวขนาดนี้แล้วมาปาร์ตี้เยอะเอง ก็ซวยเองนะเนี่ย พูดเองก็ต้องทำให้ได้นะคะ (หัวเราะ)
