เจ้าหน้าที่ระดมกำลังลงพื้นที่ตรวจติดตามการรื้อถอน 3 ใน 4 รีสอร์ท สุดท้ายที่ภูทับเบิก
วันที่ 29 ต.ค. คณะทำงานปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภูทับเบิก ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และโยธาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของรีสอร์ท 3 ใน 4 แห่งสุดท้ายที่ภูทับเบิก ซึ่งผู้ประกอบการเป็นคนนอกพื้นที่ คือ รีสอร์ทภูข้าวฟ่าง ,รีสอร์ทชิลแลนด์ และรีสอร์ทภูการ์เด้นท์ หลังจากครบกำหนดเวลาตามคำสั่ง คสช.ที่ 35/59 ที่ให้เจ้าของทำการรื้อถอนเองภายใน 30 วัน และผ่อนผันให้อีก 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 29 ต.ค.2561
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบล่าสุดพบว่า ผู้ประกอบการรีสอร์ททั้ง 3 แห่ง ได้ทำการรื้อถอนรีสอร์ทจนเสร็จเกือบจะหมดทั้ง 3 แห่งแล้ว โดยภูการ์เด้นท์รีสอร์ท มีเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน มีสิ่งปลูกสร้างเป็นรีสอร์ท จำนวน 19 หลัง ขณะนี้รื้อเสร็จไปแล้วถึง 18 หลัง คาดว่าไม่เกินพรุ่งนี้น่าจะรื้อเสร็จทั้งหมด ขณะที่รีสอร์ทภูข้าวฟ่าง มีเนื้อที่ราว 1 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างเป็นรีสอร์ท จำนวน 9 หลัง ขณะนี้รื้อเสร็จไปแล้วถึง 8 หลัง ส่วนรีสอร์ทชิลแลนด์ มีเนื้อที่ราว 1 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างเป็นร้านอาหาร 1 หลัง และเต็นท์โดมขนาดใหญ่จำนวน 10 หลัง ขณะนี้เต็นท์โดมทั้ง 10 หลัง ได้รื้อเสร็จหมดแล้ว ยังคงเหลือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นร้านอาหารซึ่งเป็นโครงเหล็ก ที่คนงานกำลังรื้อถอนอยู่ คาดว่าน่าจะรื้อเสร็จภายใน 1-2 วันนี้
ส่วนรีสอร์ทบ้านกลางหมอก ซึ่งเป็นรีสอร์ทรายสุดท้าย ที่เมื่อวันที่ 25 ต.ค .2561 ที่ผ่านมาคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายรื้อถอนรีสอร์ทภูทับเบิก ได้นำประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 35/59 ไปปิดประกาศให้ทำการรื้อถอนเองภายใน 30 วัน ที่บริเวณหน้ารีสอร์ท หลังจากทางเจ้าพนักงานอัยการหล่มสัก มีคำสั่งฟ้องต่อศาลหล่มสัก ในข้อหาบุกรุกป่า เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการนอกพื้นที่ ซึ่งในห้วงระยะเวลา 30 วันนี้ จะให้ผู้ประกอบการรีสอร์ทบ้านกลางหมอกทำการรื้อถอนเอง และจะผ่อนปรนให้อีก 7 วัน หากยังไม่ดำเนินการหรือดำเนินการแล้วยังไม่เสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนเมื่อครบกำหนดทันที
สำหรับการดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ทภูทับเบิกตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/59 ขณะนี้รื้อถอนไปแล้วจำนวน 44 ราย 296 หลัง เป็นร้านค้าอีก 18 หลัง ยังคงเหลือแค่ 4 รายสุดท้ายนี้ การรื้อถอนก็คงจะยุติ ถ้าไม่มีรีสอร์ทรายใหม่ผุดขึ้นมาอีก
ส่วนรีสอร์ทอีก 50 ราย ที่เป็นของชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่ ที่ศูนย์พัฒนาชาวเขาได้จัดสรรพื้นที่ให้ทำกินนั้น ก็จะนำเข้าสู่แผนแม่บทพัฒนาภูทับเบิก หรือทับเบิกโมเดล ซึ่งขณะนี้ทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดได้เข้าสำรวจ และออกแบบเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนจากนี้จะเรียกผู้ประกอบการรีสอร์ทที่เป็นชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่ทั้งหมด เข้าประชุมชี้แจง และทำการปรับปรุงรีสอร์ทให้เป็นไปตามแบบ หากผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกรื้อถอนเช่นเดียวกับรีสอร์ทรายอื่น ที่เป็นของคนนอกพื้นที่เช่นกัน