วอน รพ.ดัง จ.พังงา ปรับปรุงการบริการ หลังแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินตะคอกใส่ผู้ป่วย ซึ่งเป็นคุณยายอายุ 83 ปี ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันที่ 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อระบายความรู้สึกที่ได้รับรู้การทำงานของหมอในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล หลังพบมีการพูดจาไม่ดี ตะคอกใส่ผู้ป่วยผู้สูงอายุ แสดงกิริยาไม่เหมาะสม มีการทำงานล่าช้าในการตรวจ กระทั่งผู้ป่วยนอนอยู่เตียงติดกันกับตนเองเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ทำให้โลกโซเชียลวิจารณ์กันอย่างหนัก และมีการแชร์ต่อๆกันไปเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่โพสต์ หลังจากนั้นได้รับการติดต่อกลับพร้อมพาไปยังบ้านเลขที่ 28/6 ม.5 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพของคุณยายช่วง เกสร อายุ 83 ปี ที่ไปรักษาตัวด้วยอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยหอบ และไม่ได้ทานข้าวมาเป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะเดินทางไปรักษาตัวที่ รพ.เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 23 ต.ค. และได้เสียชีวิตลง เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยในใบมรณะบัตร ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตคือติดเชื้อในกระแสเลือด
น.ส.หยาดฝน จักรกรด หลานสาวยายช่วง กล่าวว่า วันที่คุณยายเข้า รพ.นั้น คุณยายมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อย ไม่ทานข้าวมา 2-3 วัน แล้ว จึงพายายไปรักษาตัวที่ รพ. ซึ่งตนเองอยู่กับคุณยายตลอดเวลาตั้งแต่พามาหาหมอ ซึ่งตรงกับวันหยุดราชการ เมื่อคุณยายเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้ขึ้นนอนบนเตียงและมีผู้ช่วยพยาบาลมาซักประวัติ ตรวจความดัน เจาะเลือด และพยาบาลก็มาบอกว่าให้รอพบหมอ แต่เป็นการรอที่นานมาก ระหว่างที่รอคุณหมอ ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามอาการแต่อย่างใด จนกระทั่งคุณหมอมาซักประวัติและสอบถามคุณยายโดยใช้น้ำเสียงตะคอก ถามคุณยายว่าเป็นไขมัน ความดัน เบาหวาน ใช่ไหม คุณยายซึ่งมีอายุ 83 ปี จึงตอบแบบถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง ก่อนที่คุณหมอจะถามต่อว่ายายกินยาวันกี่เม็ด ยายอายุ 83 ปีแล้วหลงๆ ลืมๆ ก็บอกผิดบ้างถูกบ้างบวกด้วยอาการไม่สบายตอบไม่ค่อยถูก คุณหมอก็ยังใช้น้ำเสียงตะคอกใส่คุณยายตลอด พอตนเองจะช่วยตอบคุณหมอก็ทำเหมือนไม่รับฟัง ประมาณว่าต้องให้ผู้ป่วยตอบคนเดียว จนตนเองรู้สึกว่ามันไม่สมควรตะคอกใส่คุณยาย ทั้งที่นอนเจ็บอยู่ แถมอายุมากแล้วด้วย ขณะเดียวกันคุณยายก็บอกคุณหมอว่าเจ็บท้อง กลับได้รับคำตอบจากคุณหมอว่าตอบให้ตรงคำถามด้วย ไม่ได้ถามไม่ต้องตอบ ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอีก แล้วก็ออกไปจากเตียงยาย แล้วก็รออีกเป็นชั่วโมง กว่าจะได้ไปเจาะเลือด เอ็กซเรย์ วัดคลื่นหัวใจ ใส่ท่อปัสสาวะ และแอ็ดมิดนอน รพ. พอมาที่เตียงพยาบาลก็เข้ามาสอบถามดีมาก ผิดกับคุณหมอที่มาตรวจ
จากนั้นช่วงเวลา 04.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค. คุณยายได้เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยากจะให้ทาง รพ.ปรับปรุงระบบการให้บริการ คำพูด คำจาให้ดีกว่านี้ ญาติฟังแล้วรับไม่ได้จริงๆ และก็ได้ยินข่าวเรื่องแบบนี้มาบ่อยมาก ส่วนเรื่องการเสียชีวิตทางครอบครัวไม่ได้ติดใจ หรือเรียกร้องอะไร
ด้าน ผู้ป่วยซึ่งอยู่ในเหตุการณ์และเป็นผู้โพสต์ข้อความลงไปในโลกสังคมออนไลน์ได้ เล่าว่า สืบเนื่องจากวันดังกล่าวตนเองมีอาการหอบ จึงไปหาหมอที่ รพ.และได้ไปนอนบนเตียงที่อยู่ติดกับคุณยายซึ่งนอนอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นก็ได้มีหมอผู้ชายเดินมาหาคุณยายแล้วก็ซักถามคุณยายโดยใช้น้ำเสียงตะคอก ตนเองฟังแล้วรับไม่ได้ รู้สึกเจ็บแทนคุณยายที่คุณหมอใช้คำพูดกิริยาที่ไม่ดีกับคุณยาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักคุณยายมาก่อน นี่หรือจรรยาบรรณของหมอ ดังคำที่เขาว่า “ยาเม็ดแรกของคนป่วย คือคำพูดหวานๆของหมอ” จนตนเองต้องเอาไปโฟสต์ระบายในเฟชบุ๊ก และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก