บก.ปอท.ลุยเอาผิดผู้เกี่ยวข้องเอ็มวีประเทศกูมี เบื้องต้นอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(2)ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)ในฐานะรองโฆษก บก.ปอท. เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับมิวสิกวิดีโอเพลงประเทศกูมี ว่า หลังมีคำสั่งจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล รอง ผบ.ตร. ให้ตรวจสอบ พ.ต.อ.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รักษาราชการแทน ผบก.ปอท.สั่งการให้ฝ่ายสอบสวน ตรวจสอบว่าว่าเข้าข่ายความผิดข้อกฎหมายใดบ้าง และให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบว่าบุคคลในคลิปเป็นใครบ้าง เนื่องจากเนื้อหาส่อไปในทางให้ร้ายประเทศ ทำให้ประเทศเกิดความเสียหายในหลายเรื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา14(2) ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน สำหรับความเสียหายที่ปรากฎในเนื้อเพลงอาจทำให้ประเทศเสียหาย นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ส่วนจะเข้าข่ายความผิดใดอีกหรือไม่ อยู่ที่ระหว่างพิจารณา
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะที่การร้องทุกข์กล่าวโทษ หลังจากที่พิจารณาออกมาแล้วว่าเข้าข่ายความผิดข้างต้น ก็จะแจ้งให้บุคคลที่ได้รับความเสียเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษและจะต้องเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง เข้ามาให้ปากข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา ส่วนกรอบระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยค่อนข้างมาก และผู้บังคับบัญชาสั่งการลงมา
ส่วนเนื้อหาของมิวสิกวิดีโอมีลักษณะคล้ายเหตุการณ์ความรุนแรงในอดีต ที่มีการนำหุ่นมาแขวนคอแล้วใช้เก้าอี้ฟาด จะเข้าข่ายก่อความรุนแรงหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ แต่จากภาพรวม อาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตามที่ ผู้เกี่ยวข้องกับเอ็มวีออกมาชี้แจงว่า เนื้อหาทุ้งหมด เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้น และมีอยู่จริง ไม่ได้พาดพิงใครนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขา จะพูดอะไรก็ได้ หรือและชี้แจงอะไรก็ได้ หลังจากนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้งหนึ่งว่ามีความผิดหรือไม่