อธิบดีกรมศิลปากรขอให้ยุติการทาสีทับโบราณสถานทุกแห่งชี้ผิดกฎหมายและทำลายความเป็นของแท้ดั้งเดิม
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้แชร์ภาพการบูรณะวัดต่างๆ โดยใช้สี ทาทับโบราณสถาน เช่น วัดโพธารามและวัดลาวทอง จ.สุพรรณบุรี วัดศรีสโมสร จ.ชัยนาท โดยมีกลุ่มบุคคลอ้างว่าได้บริจาคให้วัดด้วยความศรัทธานั้น ขอให้ยุติการกระทำดังกล่าวโดยทันที เนื่องจากผิดหลักการอนุรักษ์ และเป็นการทำลายความเป็นของแท้ดั้งเดิมของโบราณสถาน อีกทั้งยังไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมศิลปากร ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2535 ทั้งนี้ได้สั่งการให้สำนักศิลปากรทั่วประเทศ ตรวจสอบข้อมูลโบราณสถาน ที่มีการกระทำลักษณะดังกล่าวและประสานกับวัดต่างๆโดยเร่งด่วน ขอให้ยุติการดำเนินการทั้งหมดและหากเป็น การกระทำที่ผิดต่อ พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2535 ผู้ดำเนินการจะต้องรับผิดชอบและเข้าหารือกรมศิลปากรเพื่อดำเนินการแก้ไขทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวิหารโบราณอายุเกือบ 400 ปี วัดโพธาราม ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้มีการเข้าไปบูรณะตั้งแต่ปี 2558 โดยได้มีการใช้สีทองทาทับทั้งหลังจนไม่เหลือเค้าเดิม
ขณะที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ TOA Paint ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2559 ระบุว่า "วัดโพธาราม จ.สุพรรณบุรี เดิมชื่อวัดบ้านคอย เพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าคอย มีบรรยากาศร่มรื่น มีโบราณสถานที่สำคัญคือวิหารที่มีลักษณะโค้งเหมือนท้องเรือสำเภา บางทีเรียกกันว่า "โบสถ์มหาอุต" ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปหินทรายเก่าแก่จำนวนมากครับ TOA ขอขอบคุณที่ไว้วางใจ ใช้ TOA Gold เพื่อทาสีแห่งศรัทธาให้กับวัดโพธารามครับ"
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2561 สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี กรมศิลปากร ได้เข้าไปโพสต์ในเพจ TOA Paint ว่า กรุณาลบเเท็กหน่วยงานออกด้วย เนื่องจากการดำเนินการครั้งนี้สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เเละกรมศิลปากรเองไม่มีนโยบายที่จะใช้วิธีการนี้ในการบูรณะโบราณสถาน ดังนั้นการโฆษณาของท่านในลักษณะนี้อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดได้ ทั้งนี้ สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี กำลังดำเนินการเก็บหลักฐานวัดทุกวัด(ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ)ที่ถูกบูรณะทาสีทองด้วยฝีมือเอกชนกลุ่มดังกล่าวนี้ เพื่อดำเนินการทางกฏหมายในกรณีที่วัดนั้นมีสถานะเป็นโบราณสถานต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายระบุว่า "เขาโพสต์มาตั้งแต่ 2016 แล้ว แต่กรมศิลป์เพิ่งจะทราบข่าว จะบอกว่าคนที่สำนักฯไม่เคยเห็นเลยว่ามีการบูรณะวัดให้เป็นแบบนี้ก็คงจะไม่ใช่ล่ะมั้งคะ หรือเป็นเพราะกระแสโซเชียลถึงทำให้สำนักฯต้องออกตัวก็ไม่รู้"
ทั้งนี้บางส่วนก็มองว่าคนที่บูรณะวัดเก่าที่ทรุดโทรม ให้กลับมาสวยงามนั้นมีเจตนาดี แต่อาจจะไม่รู้ข้อกฎหมายของกรมศิลปากร อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ทักท้วงแต่อย่างใด
ขอบคุณภาพ : TOA Paint, http://nuchdacha.bloggang.com