บุกจี้ ผบ.ตร.เร่งรัดคดี ร.ต.อ.ซิ่งกระบะชนรถพยาบาล

2018-10-24 13:20:28

บุกจี้ ผบ.ตร.เร่งรัดคดี ร.ต.อ.ซิ่งกระบะชนรถพยาบาล

Advertisement

เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับบุกร้อง ผบ.ตร. เร่งรัดคดี ร.ต.อ.ขับกระบะชนรถพยาบาล หลังไม่ยอมเป่าวัดแอลกอฮอลล์ หวั่นกระทบรูปคดี ตร.ช่วยเหลือกัน พร้อมเรียกร้องตำรวจบังคับใช้กฎหมายเมาแล้วขับอย่างจริงจังกับทุกคน

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายเจษฏา แย้มสบาย ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ กทม. พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสาน และเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต กว่า 30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อขอความเป็นธรรม กรณี ร.ต.อ.ขับรถกระบะชนรถพยาบาล ขณะกำลังนำส่งผู้ป่วยท้องแก่ เป็นเหตุให้พยาบาลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 รายที่ จ.บุรีรัมย์ โดยนายเจษฏา กล่าวว่า ร.ต.อ.ที่ก่อเหตุในคดีนี้ ขับรถที่ไม่ติดป้ายทะเบียน อีกทั้งไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ในวันเกิดเหตุ จึงเกรงว่า จะส่งผลต่อหลักฐานในคดี และตำรวจอาจช่วยเหลือกันเอง ทำให้ญาติผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม





นายเจษฎา กล่าวว่า ต้องการให้บังคับใช้กฎหมาย ที่กำหนดให้ผู้ที่ไม่ยอมเป่าวัดระดับแฮลกอฮอล์และไม่เจาะเลือดในวันเกิดเหตุให้ถือว่าเป็นผู้เมาแล้วขับ และต้องมีผลบังคับใช้ทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไปหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งในเหตุการณ์นี้ทางผู้ก่อเหตุไม่ยอมรับทราบข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ จึงทำให้ทางเครือข่ายกังวลว่าทางผู้เสียหายและครอบครัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ขณะที่นางกัญญานันท์ ตาทิพย์ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสาน กล่าวว่า ในการเดินทางมาวันนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อมั่นในการทำงานของคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ เพียงแค่ต้องการให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดคดี เนื่องจากผ่านมา8 วัน แล้ว แต่ทางคดียังไม่มีความคืบหน้า และต้องการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการเมาแล้วขับในการแจ้งข้อหากระทำโดยประมาท เปลี่ยนเป็นกระทำโดยเจตนา เนื่องจากเหตุการณ์นี้ได้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวผู้เสียหายเป็นอย่างมาก โดยนางสาวสุดารัตน์ เชื่อมาก พยาบาลที่เสียชีวิต พึ่งเรียนจบมาได้2 ปีและเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่วนพยาบาลอีกคนที่บาดเจ็บสาหัส เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องดูแลลูกเล็กวัย 6 ขวบเพียงลำพัง





ด้าน พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนรับหนังสือ กล่าวว่า ทาง ผบ.ตร. ได้กำชับว่าต้องทำให้เกิดความกระจ่างในคดีนี้ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ใครผิดก็ว่าไปตามผิด และหากพบผู้ที่เกี่ยวข้องมีการทำผิดวินัย หรืออาญา ก็จะมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด ไม่มีการข่วยเหลือใดๆ ซึ่งตนสั่งการให้ทางพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ส่งรายงานทั้งหมดมาให้ตนภายในสัปดาห์นี้ และจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบคดีด้วยตนเอง