ครอบครัวพอใจศาลตัดสินแก๊งโหดไขควงแทงหัว “น้องปอนด์”

2018-10-24 12:20:13

ครอบครัวพอใจศาลตัดสินแก๊งโหดไขควงแทงหัว “น้องปอนด์”

Advertisement

ครอบครัวของ “น้องปอนด์” เหยื่อไขควงพอใจคำตัดสินศาล ไม่ขออโหสิกรรมคนฆ่าหลาน เผยจะเผาศพหลังคดีสิ้นสุดแล้ว

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นางอรุณี ดีสุวรรณ ป้าของนายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือ น้องปอนด์ นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี วัย 24 ปีซึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่น ในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ใช้ไขคว แทงศีรษะเสียชีวิต ภายในหอพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2560 เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาของศาล ว่า วันนี้ศาลได้ให้ความยุติธรรมที่สุดแล้ว เบื้องต้นครอบครัวพอใจกับผลคำพิพากษา โดยจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ แต่หากฝ่ายจำเลยยื่นอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องของอีกฝ่าย ทั้งนี้ยืนยันไม่ขออโหสิกรรมให้ ขอให้คนที่ฆ่าหลานตนเองไปรับโทษ ตามกฎหมายส่วนศพน้องปอนด์ที่ขณะนี้ยังแช่อยู่ในโลงเย็นที่บ้าน จ.ชุมพร หลังจากนี้ จะรอดูจนกว่าคดีจะสิ้นสุดจริงในชั้นศาล แล้วจะพิจาณาเรื่องการฌาปนกิจศพต่อไป แต่ขณะนี้ แม่ยังทำใจไม่ได้ ทุกวัน กลับจากทำงานยังกลับมาเปิดดูหน้าลูกชายในโลงทุกวัน หากน้องปอนด์ฟังอยู่ อยากบอกว่าให้น้องไปสู่สุขคติ และไปยังภพภูมิที่ดี ชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นคนในครอบครัวอีก



สำหรับคดีนี้มีจำเลย ทั้งหมด 14 คน ประกอบไปด้วย 1.นายกรกนก หรือ อาร์ท วรัญญสาธิต อายุ 22 ปี 2.นายเดชาธร หรือ ไบรท์ มูลมณี อายุ 20 ปี 3.สิบตรีชลินธร หรือ บิ๊ก แก่นสาร อายุ 20 ปี 4.นายญาณวัฒน์ หรือ ปาล์ม ทิพย์เที่ยงแท้ อายุ 19 ปี 5.นายเรวัต หรือ เต้ย วงศ์ขยาย อายุ 20 ปี 6.นายกฤตนันท์ หรือ ปาล์ม เนียมเงิน อายุ 20 ปี 7.นายเศรษฐา หรือ เติ้ล อุปถัมภ์ อายุ 26 ปี 8.นายธีรพัฒน์ หรือ อั้ม โพธิสุทธิ์ อายุ 19 ปี 9.นายธีรธานนท์ หรือนนท์ ทัพนาค อายุ 20 ปี 10นายภาคิน หรือ มิค เสือนาค อายุ 18 ปี 11.นายศุภสิทธิ์ หรือแป้ง ดีท้วม อายุ 20 ปี 12.นายอธิบดี หรือซีม กุญแจทอง อายุ 21 ปี 13.นายชินกิตติ์ หรือกิต อรรถวรรธน อายุ 18 ปี และ 14.น.ส.มาริสา หรือลูกหมี เงินทอง อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย , ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายแก่กาย , ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควร โดยมีอาวุธโดยใช้กำลังประทุษร้าย ,ร่วมกันพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรโดยคดีนี้ มีเพียงจำเลยที่2คือนายเดชาธร หรือไบรท์ มูลมณี ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนจำเลยอื่นๆได้รับอนุญาต





ศาลได้อ่านคำพิพากษา พิจารณาแล้วเห็นว่า พยานโจทก์และโจทก์ร่วมมีประจักษ์พยาน และวัตถุพยานเป็นภาพวงจรปิดรวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ให้การยืนยันฟังได้ว่า จำเลยที่ 1-13 ได้กระทำการตามฟ้องจริง บุกรุกโดยมีเหตุฉกรรจ์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ได้รับอันตราย และเสียชีวิต โดยจำเลยที่1 และ 2 ได้ร่วมฆ่าผู้ตาย มีจำเลยที่1 เป็นผู้ล็อกคอให้จำเลยที่2 ใช้ไขควงแทงผู้เสียชีวิตบริเวณขมับขวา

พิพากษาจำเลยที่ 1 จำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น จำเลยที่ 2 จำคุก 25 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและบุกรุกเคหะสถาน จำเลยที่ 3,10,12 จำคุกคนละ1 ปี ฐานบุกรุกเคหะสภานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย จำเลยที่ 4,5,6 ,11 จำคุก11 ปี ฐานบุกรุกเคะสถานมนเวลากลางคืนและร่วมกันทไร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย โดยให้จำคุกจำเลยที่ 4 ต่อจากคดีเดิมที่ศาลจังหวัดหัวหิน จำเลย 7,8,9,13 จำคุกคนละ 10 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ทั้งนี้ให้จำเลยที่1-13 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทกฺร่วมที่1 เจ้าของหอพักที่เกิดเหตุเป็นเงิน 1.5 แสนบาท โจทกร่วมที่2 เจ้าของห้องที่เกิดเหตุและ1 ในผู้บาดเจ็บ 1.25 หมื่นบาท โจทกร่วมที่ 3 ผู้บาดเจ็บเป็นเงิน 9.5 หมื่นบาท และโจทกร่วมที่4 มารดาของผู้ตาย เป็นเงิน 6.87 ล้านบาท และให้ชำระ ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 2560 จนกว่าจะชำระเงินให้กับโจทกร่วมครบถ้วน และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 14 เนื่องจากเป็นผู้ที่พักอาศัยในหอพักที่เกิดเหตุ รวมทั้งไม่ได้ลงจากรถของจำเลยไปร่วมก่อเหตุ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลพิพากษาแก๊งไขควงแทงหัว “น้องปอนด์”คุก 10 ปี-ตลอดชีวิต