5 ไสยศาสตร์ 5 ความเชื่อ ที่ทำให้ "นาซี" ขึ้นสู่มหาอำนาจ

2018-10-14 13:30:47

5 ไสยศาสตร์ 5 ความเชื่อ ที่ทำให้ "นาซี" ขึ้นสู่มหาอำนาจ

Advertisement

มีเรื่องเล่าว่าจอมเผด็จการ ‘ฮิตเลอร์’ หวังใช้แหวนพระเจ้าเพื่อครองโลก…! แหวนเงินเกลี้ยงทำขึ้นอย่างง่ายๆ 2 วง มีน้อยคนจะรู้ว่าเคยเป็นแหวนที่พระเจ้าเคยสวมใส่มา ต่อมาได้มอบให้แก่พระเยซูเจ้า เพื่อสร้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เมื่อครั้งเผยแผ่ศาสนาคริสต์บนโลก ...



เชื่อกันว่า แหวนเงินอันทรงมหิทธานุภาพคู่นี้ เมื่อสวมใส่ในนิ้วมือของผู้ใดก็ตาม คนผู้นั้นสามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์เรียกฟ้าฝนพายุและสายฟ้าได้ดั่งผู้วิเศษ นักประวัติศาสตร์ชี้ว่า ปัจจุบันแหวนพระเจ้าถูกชนเผ่านักรบทะเลทราย เผ่าเบดูอิน (Bedouin) เก็บรักษาไว้อย่างลับสุดยอด






ในยุคโบราณ ผู้นำทรราชย์หลายชาติรู้ว่า แหวนพระเจ้า (God Ring) มีอิทธิฤทธิ์ ต่างพากันแย่งชิง เพื่อครอบครองดังเช่นจักรพรรดิเนโร (Nero) แห่งกรุงโรม หรือที่รู้จักในชื่อ “นีโรจอมโหด” ผู้ทารุณโหดร้าย รวมทั้งจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส หรือแม้กระทั่ง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) แห่งกองทัพนาซี และ ซัดดัม ฮุสเซน (Saddam Hussein) ก็เอากับเขาด้วย...นี่เป็นแค่ 1 ในความเชื่อเรื่องพลังลึกลับของผู้นำกองทัพนาซีผู้มีอำนาจข้ามฟ้าข้ามโลกในอดีต "ฮิตเลอร์" วันนี้ทีมข่าวสกู๊ปพิเศษ นิว 18 ขอนำเสนอ 5 เรื่องราวเรื่องเล่าที่ทำให้คนทั้งโลกได้รู้ว่า เบื้องหลังพลังอำนาจของกองทัพนาซีนั้นบางทีอาจมาจากเรื่องราวที่เราจะกล่าวดังต่อไปนี้ ...





1. กองทัพนาซี (NAZI) เคยจ้างผู้มีพลังจิตเพื่อหา เบนิโต มุสโซลินี (Benito Mussolini) 
หลังจาก มุสโซลินี โดนจับ ไฮน์ริช ฮิมเลอร์ (Heinrich Himmler) ผู้นำหน่วย SS (ชุทซ์ชตัฟเฟิล (เยอรมัน: Schutzstaffel) หรือ เอ็สเอ็ส (SS, "ᛋᛋ" ที่เป็นอักษรรูน) เป็นองค์กรกำลังกึ่งทหารสังกัดพรรคนาซีภายใต้คำสั่งของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เดิมมีชื่อองค์กรว่า ซาล-ซุทซ์ (Saal-Schutz) ซึ่งมีสมาชิกเป็นอาสาสมัครของพรรคนาซีเพื่อคุ้มกันและดูแลความปลอดภัยในการประชุมพรรคที่เมืองมิวนิก เมื่อไฮน์ริช ฮิมเลอร์เข้าร่วมองค์กรในปีค.ศ. 1925 ก็มีการเปลี่ยนชื่อหน่วยเป็น "ชุทซ์ชตัฟเฟิล" เอ็สเอ็สภายใต้การนำของฮิมเลอร์ได้ขยายตัวจากมีสมาชิกสองร้อยคนกลายเป็นองค์กรขนาดมหึมาที่มีสมาชิกกว่าล้านคนและกลายเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีอิทธิพลที่สุดในเยอรมนี หน้าที่ขององค์กรนี้คือสอดส่องดูแลความมั่นคงภายในไรช์) ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อตามหาตัวมุสโซลินีให้เจอ และตัดสินใจติดต่อผู้มีพลังลึกลับ ที่ตัวเองเคยจับมาก่อน ให้มาช่วยตามหามุสโซลินีโดยแลกกับอิสรภาพ




เบนิโต มุสโซลินี (Benito Mussolini)

- พลตรีของนาซีเคยทำให้ฮิมเลอร์เชื่อว่าพระเยซูเป็นชาวเยอรมัน

นี่เป็นแนวคิดสุดบ้าคลั่งของ คาร์ล วิลิกุท (Karl Wiligut) ผู้ซึ่งบอกว่าชาวเยอรมันมีอยู่มาตั้งแต่ 228,000 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยที่ยังมีดวงอาทิตย์สามดวง และบนโลกยังมียักษ์กับคนแคระ

เท่านั้นยังไม่พอ คาร์ล วิลิกุท ยังเคยได้รับสนับสนุนในการสร้างสิ่งก่อสร้างทางความเชื่ออย่าง ปราสาทคาเมล็อต ของประเทศเยอรมนีด้วย




คาร์ล วิลิกุท (Karl Wiligut)

- ฮิตเลอร์เคยจ้าง วิลเฮลม กุทเบร์เล็ต (Wilhelm Gutberlet) ให้ตามหาชาวยิวด้วยเวทมนตร์ วิลเฮลมผู้ซึ่งเป็นหมอในตอนกลางวัน และเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ในยามราตรี
เขาพบกับฮิตเลอร์หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เพียงไม่นาน แต่ก็สามารถทำให้ฮิตเลอร์สนอกสนใจในพลังของเขาอย่างหลงใหล 

ทั้งนี้ ไม่มีใครทราบว่าพลังของชายคนนี้ใช้ได้จริงหรือไม่ แต่ฮิตเลอร์ก็ให้เขาช่วยหาชาวยิวด้วยเวทมนตร์ไปจนถึงวันที่เขาตายลง 





- ไฮน์ริช ฮิมเลอร์ เคยบอกว่าตัวเองเห็นอนาคต จากคำบอกเล่าของวิลเฮลม เวิล์ฟ โหราจารย์ประจำตัวของ ฮิมเลอร์ เขาบอกว่า ฮิมเลอร์ไม่เพียงแต่จ้างคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติ แต่ยังคิดว่าตัวเองเห็นอนาคตด้วย
จริงอยู่ว่าฮิมเลอร์ได้สั่งห้ามการใช้โหราศาสตร์หลังจากนั้น แต่หากคำพูดของเวิล์ฟ เป็นความจริง คำสั่งนี้ไม่ได้มาจากการเลิกเชื่อในไสยศาสตร์แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะ ฮิมเลอร์มองว่า ไสยศาสตร์ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นนอกจากคนของเขาควรใช้นั่นเอง




- นาซีเคยบอกว่า ฮิตเลอร์เป็นเมสสิยาห์ หรือพระผู้ช่วยให้รอดตามความเชื่อศาสนาคริสต์
ดีทริค เอคคาร์ท (Dietrich Eckart ) เป็นคนที่ฮิตเลอร์เคารพเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่สร้างอนุสาวรีย์ให้ อย่างไรก็ตามเจ้าตัวกลับมีความเชื่อแบบสุดกู่ต่อ ฮิตเลอร์เสียอย่างนั้น

เพราะในระหว่างที่ฮิตเลอร์ขึ้นครองอำนาจเอคคาร์ทก็ออกเผยแพร่คำทำนายว่าฮิตเลอร์เป็นเมสสิยาห์ของเยอรมนี แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากฮิตเลอร์ก็ตาม



แต่อ้างอิงจากคำพูดของเอคคาร์ทดูเหมือนว่าในช่วงปลายสงครามฮิตเลอร์จะคลั่งในความเชื่อที่ว่าตัวเองเป็นเมสสิยาห์ของเยอรมนี ยิ่งเสียกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำ





ที่มา : listverse