ชาวไทยและชาวลาวพร้อมใจกันร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์บูชาพญานาค วัดธาตุพนม ครบ 61 ปี ปาฏิหาริย์พญานาค บริวารร่างทรง แห่เสริมบารมี
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ต.ค ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม คึกคักไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว รวมถึงผู้เลื่อมใสศรัทธา ในองค์หลวงพ่อพญานาค ต่างเดินทางมาทำบุญร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์สำคัญ “สัตนาคารำลึก หรือพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค” ที่ดูแลปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญจัดสืบทอดมายาวนาน เป็นปีที่ 61 ตามความเชื่อศรัทธาเพื่อเป็นการรำลึกถึงองค์พญานาค ทั้ง 7 ตน เนื่องจากเคยเกิดปาฎิหาริย์ มีเหตุการณ์ประหลาด ที่องค์พญานาค ได้เสด็จมาดูแลในองค์พระธาตุพนม ในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 จึงได้มีการถือปฏิบัติเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ สืบทอดกันมาทุกปี โดยเชื่อกันว่า หากใครได้มาร่วมพิธี จะมีโชคลาภ เป็นการเสริมบารมี จะส่งผลให้มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง เนื่องจาก 1 ปี มีครั้งเดียวจะได้มีโอกาสขอพรหลวงพ่อพญานาค ผู้ดูแลปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม
ส่วนการประกอบพิธี ช่วงเย็น พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม จะได้นำพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวลาว ประชาชน และนักท่องเที่ยว ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ สัตนาคารำลึก หรือพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค ถวายเครื่องสักการบูชาองค์พระธาตุพนม รวมถึงองค์พญานาคทั้ง 7 พร้อมจัดสถานที่ประทับ ให้พญานาค ทั้ง 7 องค์ ที่จะมาประทับตามความเชื่อ เพื่อโปรดลูกหลาน เทศนาสั่งสอน รวมถึงประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งทุกปี ในช่วงเวลา ประมาณ ตีสอง จะเป็นเวลาที่องค์พญานาค จะลงประทับร่างทรง เพื่อเทศนาสั่งสอน บางปีได้เกิดปรากฏการณ์แปลกขึ้น อาทิ การเกิดแสงประหลาดบนท้องฟ้า การเกิดเงาพระธาตุพนม โดยเชื่อกันว่าเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ของพลวงพ่อพญานาค เพื่อสร้างความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา
ด้าน พระครูพนมเจติยานุรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม กล่าวว่า พิธีศักดิ์สิทธิ์สัตนาคารำลึก หรือพิธีบวงสรวงพญานาค เกิดขึ้นตามประวัติความเป็นมาจากในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 ปี พ.ศ.2500 ได้มีชาวบ้านในเขต อ.ธาตุพนม เห็นแสงประหลาดเป็นลำงามโตเท่าลำต้นตาลขนาดใหญ่มีสีต่างๆ กันถึงเจ็ดสี พุ่งแหวกอากาศแข่งกันเป็นลำยาวหลายเส้น จากทางด้านทิศเหนือ มองเห็นแสงสีงามประหลาด แล้วหายเข้าไปในองค์พระธาตุพนม ต่อมาได้เกิดปฏิหาริย์ มีการประทับร่างทรงสามเณรในวัด พร้อมกล่าวบอกว่า ลำแสงที่ชาวบ้านพบเห็นเป็นพญานาค 7 องค์ มีนามตามลำดับเป็นมงคลตามอริยทรัพย์อันประเสริฐ คือ 1.พญาสัทโทนาคราชเจ้า เป็นประธาน2. พญาศีลวุฒินาโค 3. พญาหิริวุฒินาโค 4. พญาโอตตัปปะวุฒินาโค 5. พญาสัจจะวุฒินาโค 6. พญาจาคะวุฒินาโค 7. พญาปัญญาเตชะวุฒินาโค ที่มีวิชาความรู้แตกต่างกัน ได้เสด็จมารักษาพระอุรังคธาตุ เนื่องจากเทพยดาที่รักษาองค์พระธาตุอยู่ก่อน นิสัยไม่ดีอาศัยกินสินบนและเครื่องเซ่นสรวงของชาวบ้าน ที่จะทำให้เกิดเสื่อมศรัทธา ต้องมาประทับรักษาแทน หลังจากนั้น เมื่อมีเหตุการณ์หรือเรื่องเดือดร้อนต่างๆ พญานาคก็จะมาประทับร่างทรง เพื่อโปรดชาวบ้านเทศนาสั่งสอน สนทนาทางโลกและทางธรรม และรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จนชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ยึดถือปฏิบัติทำให้มีการจัดทำพิธีบวงสรวงบูชาพญานาคทั้ง 7 สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ พิธีดังกล่าวถือเป็นพิธีสำคัญอย่างหนึ่งของนครพนมในช่วงก่อนวันออกพรรษา หากใครที่ได้มาร่วมพิธีถือว่าเป็นบุญกุศลจะทำให้มีความสุข และเจริญรุ่งเรืองตลอดไป ส่วนในเรื่องตำนานพญานาคนั้นมีตัวตนแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับจิตของแต่ละคน หรือบุญวาสนาของใครที่จะได้พบเห็น สำคัญที่สุดงานสัตนาคารำลึก ถือเป็นงานประเพณีสำคัญที่แสดงออกถึงความเคารพศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีองค์พระธาตุพนมเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นการสร้างจิตสำนึกให้พุทธศาสนิกชนหันมาร่วมกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา