“พล.ต.อ.ศรีวราห์” เตรียมแจ้งข้อหาแก๊งปลัดอำเภอล่าหมีขอเพิ่มเติม เผยผลตรวจอาวุธปืนตรงกับปลอกกระสุนทั้ง 5 กระบอก ด้าน" จีระ"มือชำแหละหนีไปเมียนมาแล้วเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีลักลอบล่าหมีขอ ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า จากการสอบสวน นายตาต้า สัญชาติเมียนมา นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ อส.ออย และ นายสกานต์ แก่งหลวง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและได้ไปนำชี้จุดเกิดเหตุประกอบเพื่อประกอบคำรับสารภาพเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสำนักงานสูจน์หลักฐาน พบว่า ผลการตรวจอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ยึดได้จากตัวผู้ต้องหา และที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ มีผลตรงกัน 5 กระบอก คือ ปืนพกออโตเมติก ขนาด.45 ขนาด .38 และ ลูกกรดยาว .22 โดยอาวุธปืนซิกอาวเออร์ ขนาด 9 มม.ของปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย พบปลอกกระสุนตรงกับอาวุธปืนทั้งหมด 20 ปลอก
รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ให้พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มเติม คือ 1.พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ 2.มีอาวุธและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ปืนยาวขนาด .22 ติดลำกล้องและเครื่องเก็บเสียง 3.มียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม (อุปกรณ์เก็บเสียง) 4.มีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 20 นัด 5.ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชนโดยไม่มีเหตุสมควร โทษจำคุก 10 วัน ปรับ 5,000 บาท พร้อมรอผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของกลาง ชิ้นเนื้อและชิ้นส่วนของหมีขอจากกรมอุทยานฯ ผลการตรวจรถยนต์ที่ยึดได้ เรื่องการตอกเลข การตัดต่อแชชซี เพื่อนำไปสู่ข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ลักลอบนำของหนีภาษีที่ไม่ผ่านการตรวจของศุลกากร, ลักทรัพย์หรือรับของโจร ทั้งนี้ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปดูเพื่อเติมเกี่ยวกับการประเมินค่าเสียหายของสัตว์ป่าที่ถูกผู้ต้องหายิงตายและความเสียหายต่อระบบนิเวศของอุทยานฯ สำหรับนายตาต้า พนักงานสอบสวน ได้นำตัวไปฝากขังครั้งที่ 1 ต่อศาลจ .กาญจนบุรีแล้ว
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบทราบว่า นายจิระ สัญชาติพม่า ผู้ต้องหาร่วมกันชำแหละซากหมีขอ ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปที่พม่า ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ โดยได้สั่งการให้เร่งติดตามจับกุมตัวแล้ว พร้อมยืนยันมั่นใจในพยานหลักฐาน สามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ทั้งหมด เนื่องจากมีวัตถุ พยานหลักฐานชัดเจนเชื่อว่าจะสามารถสรุปสำนวนให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องได้ภายในผัดฟ้องที่ 4 คือ วันที่ 25 พ.ย. นี้ อย่างไรก็ตามในชั้นนี้ยังไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่ม แต่หากการสืบสวนพบว่ามีบุคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมก็จะดำเนินคดีทั้งหมด