“โอ๊ค”โพสต์การเมืองไหมล่ะ ลั่นไม่ได้ทำผิดฟอกเงิน

2018-10-12 14:40:51

“โอ๊ค”โพสต์การเมืองไหมล่ะ ลั่นไม่ได้ทำผิดฟอกเงิน

Advertisement

“โอ๊ค พานทองแท้” โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณทุกกำลังใจ ยันด้วยเกียรติลูกผู้ชายไม่ได้ทำผิดคดีฟอกเงินแบงก์กรุงไทย ตามที่กล่าวหา ลั่นไม่มีเหตุผลที่คนกู้เงินหมื่นล้าน จะเอาเงินมาฟอกแค่ 10 ล้าน แถมบุคคลที่ใช้ให้ฟอกเงิน คือลูกชายของนายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น ถามการเมืองไหมล่ะ

จากกรณีอัยการสั่งฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค กับพวก ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อ ศาลอาญาทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง โดยคดีนี้ศาลให้ประกันตัววงเงิน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ส่วนคดีรอสอบคำให้การ 5 พ.ย.นี้



เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Oak Panthongtae Shinawatra” ว่า กราบขอบพระคุณ เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกท่าน ที่ให้กำลังใจผมในวันนี้ ทั้งท่านที่เดินทางมาให้กำลังใจด้วยตัวเอง และที่ได้ส่งกำลังใจมาตามช่องทางต่างๆ ซึ่งผมขอน้อมรับกำลังใจจากทุกท่าน ด้วยความซาบซึ้งใจครับ ผมยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย ในความบริสุทธิ์ของผมว่า ผมไม่ได้กระทำผิดตามที่กล่าวหา และไม่มีเหตุผลอะไร ที่คนกู้เงินมาร่วมหมื่นล้าน จะเอาเงินมาฟอกเพียงแค่ 10 ล้าน แถมบุคคลที่ใช้ให้ฟอกเงิน คือลูกชายของนายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้นอีกด้วย การเมืองไหมหล่ะ




การกระทำของผม ที่ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดนี้ เกิดขึ้นมากว่า 14 ปีแล้วครับ หลายคนแนะนำว่า คดีฟอกเงินมีอายุความ 15 ปี จะหมดอายุความอยู่แล้ว ไหนๆตัวผมก็อยู่ฮ่องกงอยู่แล้ว ก็อยู่ต่อไปอีกไม่กี่เดือน แล้วค่อยกลับมาตอนคดีหมดอายุความ สบายกว่ากันเยอะเลย แต่ผมก็เลือกที่จะบินกลับมารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อพิสูจน์ว่าตัวผมนั้นบริสุทธิ์ครับ



เงินกู้จากแบงค์ไม่มีใครทราบว่าเป็นเงินที่ผิดหรอกครับ กว่าศาลจะชี้ว่าเป็นเงินผิด เวลาก็ล่วงเลยมาเป็นสิบปี มันไม่เหมือนเงินที่ได้จากการปล้น หรือได้มาจากการค้ามนุษย์ หรือค้ายาบ้ามา ซึ่งแบบนั้นใครๆก็ทราบเลยทันทีว่าเป็นเงินสกปรก




ความผิดฐานฟอกเงิน มี 2 องค์ประกอบหลักๆ คือต้องรู้ว่าเป็นเงินผิดกฎหมาย และเจตนาที่จะร่วมกันฟอกเงินครับ ซึ่งกรณีเงินกู้กรุงไทยนี้ มีธุรกรรมจากเงินก้อนเดียวกัน กระทำในลักษณะเดียวกันหลายร้อยราย คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้าน แต่อัยการกลับสั่งฟ้องในข้อหาร่วมกันฟอกเงินแค่ 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มคนในบริษัทที่เป็นผู้กู้ เและ 2. กลุ่มที่เกี่ยวพันกับการเมืองเท่านั้น มันแปลกไหมหล่ะ..??