“ตาต้า”ชาวเมียนมา ดูแลสำนักสงฆ์เต่าดำ รับสารภาพเป็นคนยิง “หมีขอ” เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบหลักฐานอีกเพียบทั้งซากหมีขอ กบทูด ปลอกกระสุน
จากกรณีที่มีการจับกุมคณะรถออฟโรดของ นายวัชรชัย สมีรักษ์ หรือ ปลัดแมน ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย พร้อมพวก และซากสัตว์ลักษณะคล้ายหมีขอเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งคดีนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ให้ประกันตัว นายวัชรชัย พร้อมพวกคน 2 แสนบาท ส่วนซากสัตว์ขณะนี้ได้ส่งตรวจดีเอ็นเอคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในสำนักสงฆ์เต่าดำค้นหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุอย่างไม่ลดละ
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 ต.ค. นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบภาค 7 และชุดสืบ สภ.ไทรโยค ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ สำนักสงฆ์เต่าดำ หมู่ที่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค พร้อมคุมตัวนายตาต้า คนดูแลสำนักสงฆ์เต่าดำ ไป สภ.ไทรโยค หลังจากนายตาต้า ยอมรับว่า เป็นคนยิงหมีขอด้วยตัวเอง และพาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่ยิงหมีขอ
นายตาต้า สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา 20.00น.คืนวันที่ 6 ต.ค.หลังจากกลุ่มออฟโรดของนายวัชรชัย เดินทางมาถึง มีชายในคณะนี้ 2 คน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครชื่ออะไร ได้ชักชวนให้นายตาต้าพาไปส่องไฟเพื่อล่าสัตว์ป่า นายตาต้าจึงพาชาย 2 คนเดินออกจากที่พัก ห่างจากสำนักสงฆ์เต่าดำประมาณ 300 เมตร ได้ส่องไฟไปพบชะมดบริเวณริมลำธาร โดยชายหนึ่งในนั้นได้ใช้อาวุธปืนยาวยิงไป 1 นัด แต่ไม่ถูกชะมด จึงพาเดินส่องไฟต่อไป
นายตาต้า ระบุด้วยว่า จากนั้นเดินเข้าไปในราวป่าห่างจากทางเดินประมาณ 10 เมตร ส่องไฟไปพบหมีขออยู่บนกิ่งต้นไทร หนึ่งในนั้นได้ส่งปืนให้ตนเป็นคนยิงไป 1 นัด ถูกหมีขอเสียชีวิตตกจากต้นไทร ลงมาบนพื้น จากนั้นได้แบกซากหมีขอกลับไปที่พัก แล้วนำซากหมีขอไปเผาขน แล่เนื้อออกจากกระดูก ที่บริเวณริมลำธารในเขตสำนักสงฆ์ แล้วนำไปประกอบอาหาร ส่วนปืนที่ใช้เป็นของคณะนายวัชรชัย สมีรักษ์ อดีตปลัดด่านมะขามเตี้ย โดยเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนขนาด .22 แอลอาร์ 1 ปลอก บริเวณที่นายตาต้าพาไปชี้จุด
ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภาค 7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.กาญจนบุรี เข้าตรวจสอบ บริเวณศาลเจ้าพ่อเขาพลู ซึ่งห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาพลูประมาณ 5 กม.พบร่องรอยกระสุนตามแนวต้นไผ่ 6-7 จุด และพบหัวกระสุนปืน 1 หัวฝังในกอไผ่ ซึ่งเป็นไปตามที่กลุ่มผู้ต้องหาให้การว่า ยิงปืนแก้บน ซึ่งวิถีกระสุนประเมินว่า ยิงมาจากบริเวณหน้าศาล นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด.223(5.56) อีก 2 ปลอก ตกอยู่บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อเขาพลู
สำหรับรายละเอียดแต่ละจุดมีดังนี้ จุดที่ 1 พบย่าม (กระสอบปุ๋ย) ซุกซ่อนอยู่ข้างขอนไม้ถนนฝั่งขวา (มุ่งหน้าไปทางหน่วย ทย.6 ) ห่างจากถนน 2.85 เมตร และห่างจากจุดเกิดเหตุ 1.1 กิโลเมตร พบหลักฐานและวัตถุพยานภายในย่ามจำนวน 3 รายการ คือ 1.ซากสัตว์ป่า กบทูด หรือ เขียดแลว จำนวน 4 ตัว 2.ซากสัตว์ป่า หมีขอ หรือ บินตุรง จำนวน 3 ชิ้น น้ำหนัก 4.3 กม. 3.ดิน บริเวณที่พบถุงย่ามใส่ซากสัตว์ป่า จำนวน 1 ถุง
จุดที่ 2 พบหลักฐานและพยานวัตถุ จำนวน 2 รายการ คือ 1.ลูกกระสุนปืน จำนวน 1 ลูก ภายในลำต้นไผ่ หลังศาลเจ้าพ่อเขาพลู 2.ปลอกกระสุนปืน ขนาด .223 (5.56 มิลลิเมตร) จำนวน 2 ปลอก บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อเขาพลู
จุดที่ 3 บริเวณที่ นายตาตา (ผู้ต้องหา) แจ้งว่าเป็นจุดยิงและล่าสัตว์ป่า (หมีขอ) บนต้นไทร ด้วยอาวุธปืนลูกกรด ห่างจากป้ายทางเข้าสำนักสงฆ์เต่าดำ 30 เมตร และห่างจากจุดที่นายวัชรชัยและพวกตั้งแคมป์ 300 เมตร พบปลอกกระสุนปืน ขนาด .22 มิลลิเมตร จำนวน 1 ปลอก
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ที่ร่วมกระทำผิดเพิ่มอีกจำนวน 2 คน ดังนี้ 1.นายตาต้า (ชาวเมียนมา) รับสารภาพว่าเป็นคนยิงหมีขอ 2.นายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์