ลุงของ “ปลัดแมน” รุดพบ ผกก.สภ.บ้านคา จ.ราชบุรี เผยเดินทางไปกับหลานชาย เพื่อแก้บนที่สอบปลัดอำเภอได้ ปฏิเสธไม่ได้หลบหนี ไม่ได้ถูกควบคุมตัว อยู่ในพื้นที่ตลอดพอเสร็จเรื่องไม่รู้จะอยู่ทำไมจึงกลับบ้าน
จากกรณีหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค แจ้งตำรวจ สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตามจับนายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์ ผู้ร่วมขบวนไปกับคณะรถออฟโรดของ นายวัชรชัย สมีรักษ์ หรือ ปลัดแมน ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยระบุว่า อาศัยจังหวะช่วงชุลมุนหลบหนี ซึ่งนายสมเกียรติ เป็นลุงแท้ๆของปลัดแมน บ้านอยู่ จ.ราชบุรี ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค. นายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 1 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี พร้อมด้วย น.ส.นุช สอดสิริ อายุ 41 ปี หลานสาว ได้เข้าพบ พ.ต.อ.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผกก.สภ.บ้านคา พร้อมเปิดเผยว่า มีศักดิ์เป็นลุงของนายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี วันที่เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มออฟโรดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ขอข้อมูลหรือรายละเอียดอะไร วันนั้นก็ยังนั่งรถออกไปจากพื้นที่กันทั้งขบวน ส่วนช่วงที่จะกลับมาบ้านมีรถคันหนึ่งจะไปรับญาติกลับมา จึงได้ขออาศัยรถกลับมาที่ด่าน ซึ่งตนไม่ได้หลบหนีไปไหน และไม่ได้ถูกควบคุมตัว ยังคงอยู่ในพื้นที่บริเวณนั้น จนกระทั่งจนดึกหลังจากที่ทำเรื่องต่างๆเสร็จแล้วก็ไม่รู้จะอยู่ทำอะไรต่ออีก จึงเดินทางกลับมาบ้านที่ จ.ราชบุรี
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ร่วมเดินทางไปด้วยนั้นจะไปแก้บน จุดธูป ทำบุญ ที่สำนักสงฆ์เต่าดำ เพราะหลานชายสอบคัดเลือกได้เป็นปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย ไม่รู้จักกลุ่มคนที่มากับรถออฟโรด เพราะตัวเองเป็นแค่คนอาศัยให้นั่งรถเข้าไปเพื่อทำบุญเท่านั้น ส่วนตัวเองมีอาชีพขายน้ำ ขายลูกชิ้นอยู่ในตลาดใกล้บ้านที่ อ.บ้านคา สำหรับซากหมีขอที่เจ้าหน้าที่พบนั้นตนเองไม่ทราบ เพราะออกเดินทางไปถึงตอนเย็นได้กินข้าวเสร็จช่วงหัวค่ำก็นอนแล้ว พอตกเช้ามาก็นำกับข้าวเตรียมขึ้นไปถวายพระที่สำนักสงฆ์
ด้าน น.ส.นุช สอดศรี อายุ 41 ปี ลูกพี่ลูกน้องกับปลัดแมน กล่าวว่า ปลัดแมนเป็นคนจิตใจดีอยู่ด้วยกันมาให้ฆ่าไก่สักตัวก็ยังไม่กล้าที่จะฆ่า เป็นคนตรง แม้แต่ยาเสพติดก็ไม่ให้ญาติเข้าไปยุ่งเกี่ยว ญาติพี่น้องมีคดีเกี่ยวกับเรื่องต่างๆก็ไม่เคยเอาตำแหน่งเข้ามายุ่งเกี่ยว ส่วนเรื่องคดีนี้ไม่รู้เรื่อง แต่วันศุกร์ที่ผ่านมาทางปลัดแมนได้มากับแม่ที่ อบต.บ้านคา และได้โทรศัพท์ตามตัวเองให้ไปหาที่บ้านของน้าและยังบอกว่าเขาสอบติดปลัดอำเภอ จะไปแก้บน และทำบุญ ส่วนอาวุธปืนที่พบที่ตัวเขานั้นเป็นอาวุธปืนประจำตำแหน่งอยู่แล้ว เวลามาบ้านทุกครั้งก็จะเห็นอาวุธอยู่ และวันที่ไปนั้นก็ไม่ใช่รถยนต์ของปลัด แต่เป็นรถเก๋งที่เป็นรถส่วนตัวเขา ส่วนเรื่องขาซากหมีขอนั้นก็ไม่รู้ว่ามายังไง เชื่อมั่นว่าปลัดแมนไม่เคยล่าสัตว์ รู้สึกเสียใจว่าบางเพจ บางสื่อมาโจมตีทั้งที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ได้แต่เห็นแค่ขา แต่ขาของหมีขอนั้นก็ไม่ได้อยู่รถคันที่ปลัดด้วย ส่วนอาวุธปืนไรเฟิลที่จับได้ก็ไม่ได้อยู่ในรถของปลัดแมน
น.ส.นุช กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มรถออฟโรดนั้นเป็นพรรคพวกของพี่ชาย ซึ่งมาทำงานที่นั่นนานแล้วก็เลยรู้จักจึงได้ชักชวนกันไปทำบุญกัน ส่วนการล่าสัตว์ป่านั้นยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้เป็นคนล่าแน่นอน ตอนนี้ยังไม่เจอกับพี่ชาย ได้แต่เห็นในโทรทัศน์ว่าพี่ชายถูกควบคุมอยู่ที่นั่น วันนี้จึงพานายสมเกียรติ น้าชายมาแสดงความบริสุทธิ์ใจเพื่อมาให้ข้อมูลกับตำรวจว่าไม่ได้หลบหนี และวันนั้นยังเห็นว่าน้าชายไม่ได้ถูกควบคุมตัว พอน้าเดินทางกลับมาก็ได้มาสอบถามและไม่มีการเรียกบัตรประจำตัวประชาชนไปตรวจสอบอะไรเลย ทางเจ้าหน้าที่ได้พาตัวไปที่หน่วยพร้อมกับเรียกให้กินข้าว แต่ก็ได้บอกไปว่าจะเตรียมล้างท้องไว้เทศกาลกินเจแล้ว ส่วนมีการเผยแพร่ข่าวจากเพจต่างๆว่าน้าชายมีอาชีพเป็นนายพราน ก็รู้สึกงงมาก ในเมื่อ อส.เขารับว่าเป็นของเขา แต่ถ้าถามว่าพี่ชายได้รู้เห็นหรือไม่นั้นคิดว่าพี่ชายไม่ชอบเรื่องพวกนี้ เพราะพี่ชายทำงานด้านการปกครองมา จะรู้กฎหมายคงไม่เอาตำแหน่งไปเสี่ยงกับเรื่องนี้แน่นอน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผกก.สภ.บ้านคา ได้พาตัวนายสมเกียรติพร้อมญาติเดินทางไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรีเพื่อสืบสวนติดตามคดีดังกล่าว