“ศศิน”ชี้ปลัดอำเภอทำผิดร้ายแรงในชีวิต

2018-10-09 11:20:42

“ศศิน”ชี้ปลัดอำเภอทำผิดร้ายแรงในชีวิต

Advertisement

“ศศิน” ระบุเส้นทางเข้าป่าที่คณะปลัดเข้าไปเป็นเหมืองแร่เก่า ไม่มีชุมชน มีสำนักสงฆ์เต่าดำอยู่ พระเคร่งครัดมาก ชี้ทำผิดร้ายแรงในชีวิตไม่ว่าคดีจะออกมาอย่างไร เสนอ จ.กาญจนบุรี รณรงค์ย้ำกับผู้นำชุมชน ข้าราชการ ห้ามมิให้ร้านอาหาร ร้านข้าวแกง มีเมนูสัตว์ป่า แม้จะขายเนื้อสัตว์ป่าปลอมก็ตาม พร้อมขึ้นป้ายรณรงค์ว่าการซื้อขายอาหารเนื้อสัตว์ป่าผิดกฏหมาย



จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค และหน่วยปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตรวจค้นและจับกุมรถกระบะออฟโรด 6 คัน ผู้ร่วมคณะ 11 คน ในจำนวนนี้มีนายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย ซึ่งทาง ผวจ.กาญจนบุรี มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ นายสกานต์ แก่งหลวง และนายอนุสรณ์ เรือนงาม ให้ออกจากสมาชิก อส.ในระหว่างนี้จะไม่ได้รับค่าตอบแทนนกว่าคดีหรือผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ลงไปเก็บหลักฐานบริเวณที่มีการตั้งแคมป์พบหลักฐานจำนวนมากตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น



เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ.ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า วัดที่คุณปลัดพาพวกไปเที่ยว เป็นวัดปฎิบัติของพระที่เคร่งครัดมาก มีทั้งพระไทย และพระฝรั่ง ศึกษาพระธรรม และสายวิปัสนา ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นสายอาจารย์มั่น ภูริทัตโต คุณปลัด คุณกับ อส. และเพื่อน ทำผิดร้ายแรงในชีวิตแล้วล่ะครับ ไม่ว่าคดีจะออกมาอย่างไร






ก่อนหน้านี้ อ.ศศิน ได้โพสต์ว่า เมืองกาญเป็นเมืองที่เคยเป็นแหล่ง "เที่ยวป่า" มายาวนาน รสนิยมของคนเมืองกาญหลายกลุ่มก็น่าจะยังชอบเที่ยวป่าหายิงสัตว์เล่นก็มี แม้จะไม่มากเหมือนก่อนไม่กี่ปี่ที่แล้วเมืองกาญมีร้านอาหารที่มีเมนูสัตว์ป่า อยู่เป็นธรรมดา ปัจจุบันร้านอาหารที่โฆษณาว่าเป็นร้านอาหารป่าก็ยังมีทั่วไป มีสัตว์ป่าในเมนูบ้างก็เยอะ ร้านข้าวแกงข้างถนน ยังมีแกงสัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองขาย เจ้าหน้าที่ไปตรวจจับ ส่วนใหญ่ไม่เจอจริง อาจจะเพราะหลบได้ บางที ก็เจอเนื้อสัตว์ป่าปลอม โดยใช้เนื้อหมู เนื้อวัว มาแช่อะไรบางอย่างเขาว่ามันจะเหมือนเนื้อเก้ง หรือ เลียงผา ส่งตรวจทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่ใช่สัตว์ป่า แต่แปลกว่ามีเมนู หรือ ทำเนื้อปลอมขาย ถ้าไม่มีเนื้อสัตว์ป่าจริงก็ไม่มีความผิด แบบนี้จึงทำให้ค่านิยมการกินเนื้อสัตว์ป่า ที่กาญจนบุรียังมีอยู่ทั่วไป ได้สั่งกินของจริงของปลอมก็คงรู้สึกว่าอร่อยกว่ากินอาหารปกติ เป็นความรู้สึก หรืออร่อยจริงก็ไม่รู้





หลายปีที่แล้ว ถูกชวนไปร่วมพิธีโครงการปล่อยสัตว์ป่า ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าสลักพระ มีผู้นำชุมชน ชาวบ้านถูกชวนมาร่วมงานด้วยตามธรรมเนียม พื้นที่ปล่อยสัตว์อยู่ลึกไปในทางป่า ผมติดรถเจ้าหน้าที่เข้าไป มีพิธีร่วมปฎิญานไม่กินเนื้อสัตว์ป่าไปตามเรื่องตามราว เสร็จเรื่องของผมก็กลับออกมาก่อนไม่อยากเป็นภาระให้ใครมาส่ง เลยขอนั่งรถผู้นำชุมชนออกมาด้วย ด้านหลังกระบะ ตอนนั้นผมไม่มีใครรู้จักมากนัก ชาวบ้านระดับแกนนำนั่งกันมาเต็มหลังรถไม่มีใครรูจักผม เขาคุยหัวเราะกัน เรื่องปฎิญาณไม่กินเนื้อสัตว์ป่า ว่ายังไงเขาก็ไม่เลิกกิน กินมานานแล้ว เลิกไม่ได้ ผมก็เข้าใจอารมณ์ชาวบ้าน กึ่งๆเมืองกึ่งป่า แบบนี้ได้



กรณีของคณะปลัดกับ อส. คนเมืองกาญ นี่ก็อาจเป็นกรณีตกค้างของคนชอบทางนี้ ปัจจุบันป่ากาญจนบุรีที่เหลือสัตว์ป่าก็อยู่ในอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เกือบทั้งสิ้น ในป่าสงวนด้านนอกไม่น่าจะมีสัตว์ป่า นอกจาก เก้ง หลงๆมา หรือ กะรอกกะแต ป่าสงวนนี่เข้าง่ายไม่มีเจ้าหน้าที่แต่ก็แทบจะหมดแล้วทั้งป่า และสัตว์ป่า ถ้าจะเที่ยวป่า ล่าสัตว์ ก็ต้องแอบเข้าเส้นทางที่ไม่มีด่านเจ้าหน้าที่ของหน่วยพิทักษ์ป่า ในป่าอุทยาน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า



นอกจากแอบ ก็อาจจจะเข้าทางชุมชน ที่อยู่ในป่า วัด โรงเรียน หาข้ออ้างไปเยี่ยมเพื่อน ไปแจกของ ไปทำบุญ อะไร แล้วเอาปืนซุกไป เส้นทางเข้าป่าที่คณะปลัดเข้าไปเป็นเหมืองแร่เก่าปัจจุบันเลิกแล้ว ไม่มีชุมชน มีสำนักสงฆ์เต่าดำ อยู่ลึกๆแห่งเดียว คณะนี้คงใช้เป็นข้ออ้างเข้าไปเที่ยวป่า โดยการทำบุญ มีเส้นทางแบบนี้อีกหลายเส้น แต่ก็ไม่มากนัก เจ้าหน้าที่คงพอดูได้ ดูอย่างคณะนี้ก็โดนจับ (หวังว่าจะมีที่ไม่โดนจับ ไม่มากนัก)





นอกจากนี้ถ้า จะแก้ที่ต้นเหตุ จ.กาญจนบุรี ต้องรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจัง ย้ำกับผู้นำชุมชนและข้าราชการ ผมคิดว่าควรห้ามมิให้ร้านอาหาร ร้านข้าวแกง มีเมนูสัตว์ป่า แม้จะขายเนื้อสัตว์ป่าปลอมก็ตาม โดยประกาศของจังหวัด ไม่รู้อิงกฏหมายอะไรได้บ้าง อยากให้มีป้ายรณรงค์ของจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วๆ ว่าซื้อขายอาหารเนื้อสัตว์ป่าผิดกฏหมาย เรื่องการครอบครองซาก ตาม พ.ร.บ.สัตว์ป่า จ.กาญจนบุรี น่าทำครับ



ขอบคุณภาพ : ศศิน เฉลิมลาภ