ไฟไหม้! โรงงานหลอมพลาสติกสมุทรปราการ วอดกว่า 10 ล้าน

2018-10-08 11:25:24

ไฟไหม้! โรงงานหลอมพลาสติกสมุทรปราการ วอดกว่า 10 ล้าน

Advertisement

เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานหลอมพลาสติกและโกดังเก็บสารเคมี อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คาดมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สุธาดา ศรีสุวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ภายในบริษัท บิ๊กไบร์ โปรเกส ซึ่งเป็นโรงงานหลอมพลาสติก ตั้งอยู่เลขที่ 200 หมู่ ซอยเทศบาลบางปู 88 (โรงหมี่) ต.บางปูใหม่ อ.เมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ตอ.ประวิทย์ บุญธรรม ผกก.สภ.บางปู พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปูและเทศบาลใกล้เคียงจำนวน 10 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานชั้นเดียว ซึ่งภายในมีเครื่องจักรตั้งอยู่หลายเครื่อง พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และกำลังลุกลามไปยังโรงงาน อัลฟ่า อินเตอร์พลาสเคม จำกัด เลขที่ 317 / 3 หมู่ 1 ต.บางปูใหม่ ซึ่งเป็นโกดังเก็บสารเคมี ที่ปลูกติดกันทางด้านหลัง โดยมีชาวบ้านและคนงานของบริษัทดังกล่าวกำลังช่วยกันเอาน้ำมาสาดสกัดเพลิงและขนข้าวของออกจากบริษัทดังกล่าวอย่างอลหม่าน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันฉีดน้ำสกัดพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้โรงงานดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้ง 2 โรงงาน ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกที่แขนทั้ง 2 ข้างเป็นเจ้าของโรงงาน ถูกนำส่งรักษาที่ รพ.รัทรินทร์บางปู ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท




จากการสอบสวนนายสมบูรณ์ จินตรสถาพร อายุ 50 ปี ผู้บาดเจ็บและเป็นเจ้าของโรงงานหลอมพลาสติก ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ในขณะที่ตนนอนหลับอยู่ ได้สะดุ้งตื่นเพราะมีควันไฟจำนวนมากพวยพุ่งเข้าไปในห้องพัก จึงได้รีบลุกขึ้นมาดู ได้พบเห็นไฟไหม้ช่วงกลางโรงงานซึ่งเป็นที่ตั้งของเครื่องจักรหลอมพลาสติก ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วจนทั่วตัวโรงงานและลุกลามไปลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ซึ่งปลูกสร้างอยู่ติดกันที่บริเวณด้านหลัง ด้วยความตกใจตนและชาวบ้านใกล้เคียงได้ช่วยกันลากสายยางไปฉีดน้ำสกัดเพลิงแต่เอาไม่อยู่จึงโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป