แผ่นดินไหวอินโดนีเซีย ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ธรณีสูบ” ยอดตายพุ่ง 1,347 ราย

2018-10-03 11:30:43

แผ่นดินไหวอินโดนีเซีย ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ธรณีสูบ” ยอดตายพุ่ง 1,347 ราย

Advertisement

เกาะสุลาเวสี ของอินโดนีเซีย เผชิญปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ธรณีสูบ” หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง โดยมีบ้านเรือนกว่า 1,700 หลังถูกกลืนลงใต้ดินและพังถล่ม ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,347 รายแล้ว ประชาชนปล้นสะดมร้านค้า




ความคืบหน้าแผ่นดินไหวขนาด 7.5 นอกชายฝั่งเกาะสุลาเวสี อินโดนีเซีย และคลื่นยักษ์สึนามิ ซัดเข้าชายฝั่งเมืองปาลูตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,347 รายแล้ว จากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่ยืนยันตัวเลขอยู่ที่ 844 ราย






ขณะเดียวกันก็เกิดความวุ่นวายโกลาหล จากกลุ่มประชาชนที่บุกเข้าปล้นสะดมตามร้านค้าต่าง ๆ เพื่อหาอาหาร เชื้อเพลิง และน้ำดื่ม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ก็ยอมผ่อนปรนให้ แต่มีบางคนที่ถูกจับกุมตัว เนื่องจากขโมยคอมพิวเตอร์และเงินสด ส่วนขบวนรถยนต์บรรเทาทุกข์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่กำลังทยอยเข้าสู่เมืองเมื่อวานนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว ซึ่งรับการคุ้มกันจากทหารและตำรวจเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันการปล้นสะดมของประชาชน ทั้งนี้ 4 วันหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ความช่วยเหลือทั้งด้านอาหาร, น้ำดื่ม, เชื้อเพลิง และยารักษาโรค ยังเข้าไปไม่ถึงพื้นที่รอบนอกเมืองปาลู ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากถนนหลายสายในพื้นที่ประสบภัย ถูกตัดขาด และการสื่อสารก็ใช้การไม่ได้






เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ยังมีผู้รอดชีวิตบางรายอาจติดอยู่ใต้ซากอาคารบ้านเรือน ขณะที่ เวลาชีวิตของผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารบ้านเรือน ใกล้หมดลงแล้วในวันนี้ เนื่องจากเวลาล่วงเลยมา 5 วันแล้วหลังภัยพิบัติ ส่วนผู้ที่รอดชีวิตก็รู้สึกโกรธแค้นมากขึ้นที่ต้องรอความช่วยเหลือที่คืบคลานอย่างล่าช้า ส่วนสำนักงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ รายงานว่า มีความต้องการอย่างเร่งด่วนและจำนวนมากสำหรับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ ทั้งที่พักอาศัยชั่วคราว, น้ำสะอาด, อาหาร, เชื้อเพลิง และการดูแลรักษาสุขภาพฉุกเฉิน





นายสุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกของสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซีย เมื่อวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่หวังว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะไม่เพิ่มสูงมากไปกว่านี้ ขณะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการกู้ภัย แต่ขณะนี้ ต้องแข่งกับเวลามากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเข้าถึงเมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงทั้ง 4 เมือง ซึ่งมีประชากรรวมกัน 1.4 ล้านคน ซึ่งสภาพในแต่ละเมือง แต่ก็บอกว่า ไม่น่าจะต่างจากเมืองปาลู






ด้านประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย เรียกร้องเมื่อวานนี้ให้เดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิต และย้ำว่า ต้องหาทุกคนให้พบ

แผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้โรงแรม, ห้างสรรพสินค้าและบ้านเรือนจำนวนมากในเมืองปาลู พังถล่ม ขณะที่คลื่นสึนามิก็ถาโถมเข้าฝั่งสูงถึง 6 เมตร มีบ้านเรือนประมาณ 1,700 หลัง ในพื้นที่แห่งหนึ่ง ถูกกลืนลงใต้ดิน จากปรากฏการที่เรียกว่า “ธรณีสูบ” (Liquefaction) คือดินกับน้ำใต้ดินจะถูกแผ่นดินไหวเขย่ารวมกันเป็นโคลน แล้วผุดขึ้นมา และไม่สามารถรับน้ำหนักฐานสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ได้ ทำให้มันทรุดตัวลงไปใต้ดิน หรือไม่ก็ถล่มลงมา คาดว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน





บ้านเรือนมากกว่า 65,000 หลังได้รับความเสียหาย และมากกว่า 60,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย และต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยฟาร์ฮาน ฮัค รองโฆษกยูเอ็น กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนครนิวยอร์ก สหรัฐว่า น้ำถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะโครงสร้างพื้นฐานสำคัญส่วนใหญ่ได้รับความเสียหาย






ขณะนี้ มีมากกว่า 25 ประเทศแล้ว ที่เสนอให้ความช่วยเหลือ หลังประธานาธิบดีวิโดโด ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ แต่ก็ยังมีความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเข้าไปถึงพื้นที่ภัยพิบัติ ซึ่งก็ทำให้ประชาชนต้องเข้าไปลักขโมยและปล้นอาหารและเชื้อเพลิงจากร้านค้าที่ได้รับความเสียหาย ระหว่างรอความช่วยเหลือที่ล่าช้า