เปิดตัวพรรคนอนาคตใหม่อย่างเป็นทางการ “ธนาธร” ลั่นพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ย้ำจุดยืนไม่เอาการสืบทอดอำนาจ คสช.ทุกรูปแบบ จะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ล้มล้างผลพวงการรัฐประหาร ขณะที่ "ปิยบุตร" ระบุพร้อมส่งผู้สมัครครบทุกเขต
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ พรรคอนาคตใหม่ได้แถลงเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ประเทศไทย “อนาคตใหม่ ไทย 2 เท่า” โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่อยากเห็นทุกคนเท่าเทียมกัน ประเทศไทยเท่าทันโลก ทุกคนมีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมกัน นอกจากอนาคตที่เท่าเทียมกันแล้วยังต้องสร้างมาตรฐานการบริหารของรัฐให้เท่าเทียมโลก ให้ไทยเป็นสากลไม่น้อยหน้าใครในเวทีโลก ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศสนใจงานการเมือง นายธนาธร กล่าวว่า เป็นเรื่องดี ตนสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะอยู่กับ คสช.ต่อไปหรือไม่ หรือจะเลือกให้อำนาจเป็นของประชาชน ทั้งนี้ยืนยันพร้อมร่วมทำงานกับทุกพรรคตราบใดที่มีอุดมการณ์เดียวกัน แต่ต้องไม่เอาการสืบทอดอำนาจ คสช.ทุกรูปแบบ และจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ล้มล้างผลพวงการรัฐประหาร พรรคใดที่มีอุดมการณ์ตามนี้ทางพรรคพร้อมทำงานด้วยกัน หากตนมีโอกาสดีเบตกับ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตนพร้อมดีเบต แต่ถ้าดีเบตในฐานะหัวหน้า คสช.ตนไม่คุย
เมื่อถามว่าคาดว่าจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการปักธงความคิดในสังคมไทย สงครามการเลือกตั้งครั้งนี้สิ่งสำคัญคือการปักความคิดก้าวหน้าในสังคมนี้ให้ได้ เราจะไม่ประนีประนอมเพื่อให้ได้ ส.ส.เท่านั้น ได้กี่ที่นั่งเป็นเรื่องยากที่จะตอบได้อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ในระดับจังหวัด อย่างไรก็ตามสำหรับคำถามว่าตนพร้อมประกาศตัวเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ตนพร้อมนำประเทศสู่การเปลี่ยนแปลงและพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคจะส่งผู้สมัครให้ครบทุกเขต จัดหลักสูตรตลาดวิชาเผยแพร่ความรู้ประชาธิปไตย สร้างที่ทำการพรรคที่เป็นมิตรกับทุกคน พรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่สถานที่ที่จะทำให้คนเป็น ส.ส. หรือรัฐมนตรีเท่านั้น แต่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้าของสังคม ทุกคนจะเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน จะมีการเปิดเผยรายได้รายจ่ายของพรรคทุก 3 เดือน ให้ตรวจสอบได้ พร้อมออกแบบโครงสร้างพรรคให้เป็นประชาธิปไตย มีส่วนร่วมและกระจายอำนาจ สมาชิกมีส่วนตัดสินใจและกำหนดทิศทางของพรรค ประชาชนจะไม่เป็นเพียงฐานเสียงและคะแนนเสียงเท่านั้น แต่ประชาชนคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจที่แท้จริง เราจะรื้อฟื้นประชาธิปไตยกลับคืนมาและนำพาประเทศพ้นวิกฤต
