จากคดีนางน้ำเพชร เกยพุฒซา มารดาของเด็กสาวที่ถูกแก๊งนกฮูก บังคับค้าประเวณีให้กับข้าราชการระดับสูงในแม่ฮ่องสอนที่โด่งดังเมื่อช่วงเดือน เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ตัดสินคดีดังกล่าว มีจำเลยคือ พ.ต.ท.พงษ์นรินทร์ พลนำ ฉายาผู้กองหลิน อดีต ผบ.ร้อย ตชด.336 จ.แม่ฮ่องสอน โดยศาลได้ตัดสินพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 30,000 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ จำคุก1ปี 6 เดือน จำเลยชดใช้ค่าสินไหมให้ผู้เสียหายเป็นเหตุบรรเทาโทษ 100,000 บาท พร้อมทั้งจำเลยไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม และประพฤติตนดี ศาลจึงให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 10,000 บาท โดยอดีต ผบ.ร้อย ตชด.336 ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ออกจากราชการ ตั้งแต่ถูกออกหมายจับแล้ว ตอนนี้ต้องทำเรื่องขอกลับเข้ารับราชการตามเดิม
นางน้ำเพชร เล่าว่า สำหรับคดีนกฮูก พอเราไปร้องที่ อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหารับสารภาพ เยียวยาผู้เสียหาย 1 แสน ส่วนคนอื่น อัยการแม่ฮ่องสอนยังไม่ส่งฟ้อง แต่ อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้ฟ้องแล้ว โดยตำรวจ 3 คน รับสารภาพแล้ว ศาลสืบคดียังไม่แล้วเสร็จในคดีค้ามนุษย์ ส่วน คดีที่ 2 จะตัดสิน วันที่ 18 ตุลาคม 2561 นี้ ที่ศาลอาญา กรุงเทพฯ
ด้านนายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คดีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการบังคับให้เด็กผู้หญิงขายบริการทางเพศ เหตุเกิดที่อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณต้นปี 2560 มีคำถาม ว่าเหตุใดผู้ต้องหาจำนวนหลายราย เมื่อมีการสอบสวน และส่งสำนวนคดีต่อพนักงานอัยการ ที่แม่ฮ่องสอน แต่พนักงานอัยการกลับมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี และได้มีการร้องต่ออัยการสูงสุด และกลับมีความเห็นสั่งฟ้องคดี
เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล จำเลยให้การรับสารภาพ จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับการใช้ดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน หรือเป็นการปกป้องผู้เสียหายในคดีเพราะหลักฐานไม่พอ หลังจากนี้ จะได้สอบถามไปยังอัยการสูงสุดต่อไป